มหากาพย์ 21 สาเหตุของคนเป็น สิว ซำ้ซาก ผิวแพ้ง่าย : เปิดศึกสงครามกับ สิว ครั้งสุดท้ายในชีวิต!
คนเป็นสิว ยังไงก็ต้องเป็นสิวจริงไหม? สำหรับคนที่มีสภาพหน้ามัน เป็นสิวง่าย ตั้งแต่สมัยวัยแรกรุ่น จะรู้สึกเหมือนต้องคำสาปให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏจักรสิว ถึงแม้ว่าจะเข้าเลข 30+ แล้วแต่ทำไมสิวก็ยังตามหลอกหลอนเราอยู่ดี ถึงเวลาแล้วหละที่เรา ผู้หญิงสมัยนี้ จะต้องเปิดศึกสงครามกับสิวครั้งสุดท้ายในชีวิต! และหาเหตุผลจริงๆให้ได้ว่านอกจาก การเป็นสิวจากกรรมพันธ์ุแล้ว ยังมีอะไรอีกไหมที่ทำให้ต้องทนกับการเป็นสิวซ้ำซากไม่หายซักที !!
บอกก่อนว่าสิ่งที่เราจะมาเล่าให้ฟังในวันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่ไปหาหมอสิว หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ท และทดลองเองรวมๆ กัน ดังนั้นสิ่งสำคัญเลย คือ อย่าเอาประสบกาณ์ใครมาทำตาม แต่ขอให้ไปปรึกษาผู้รู้ ผู้เชียวชาญ และหาข้อมูลด้วยตัวเองนะจ๊ะ
ประเด็นที่น่าสนใจ
- 1 #เข้าใจผิวเป็นสิว ของตัวเอง
- 2 สำหรับมหากาพย์รักษาสิว ในวันนี้ เราจึงขอแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลักๆ คือ
- 3 1.แพ้อาหารไม่รู้ตัว
- 4 2.ผิวแพ้ง่ายจากการใช้ชีวิตประจำวัน
- 5 3.แพ้ ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ดูแลหน้า
- 6 4.แพ้ ความออร์แกนิคที่มี Essensial Oil
- 7 5.ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหน้าที่เยอะเกินไป
- 8 6.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารประกอบเยอะ
- 9 7.ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ถูกต้องตามคำแนะนำ
- 10 8.ผิวหน้าไม่ผลัดเซลล์ที่ตายแล้ว
- 11 9.เลือกผลิดภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสมกับผิวเป็นสิวของตัวเอง
- 12 10.ใช้ BHA/AHA มากเกินตอนผิวบอบบาง
- 13 11.สครับหน้ามากเกินไปก่อกวนสิว
- 14 12.หน้าขาดความสมดุลย์
- 15 13.ผิวขาดน้ำมัน
- 16 14.ไม่ถ่ายทุกวันสาเหตุสิว
- 17 15.นอนดึก / นอนหลับไม่สนิท
- 18 16.กินน้ำน้อย
- 19 17.ประจำเดือนมาไม่ปกติเลยเป็นสิว
- 20 18.สะสมแบคทีเรียสาเหตุสิวบนแบบไม่รู้ตัว
- 21 19.แพ้ ยาสระผม หรือ ปล่อยให้ผมโดนหน้า
- 22 20.ไม่ทาครีมกันแดด
- 23 21.ชอบกินของหวาน
- 24 #สรุป
#เข้าใจผิวเป็นสิว ของตัวเอง
อยากให้ทุกคนค่อยๆพิจารณาตัวเองว่า สาเหตุ หรือ สถานการณ์สิว ของตัวเองอยู่ในขั้นตอนไหน ผิวหน้าของเราในช่วงเช้า กลางวัน เย็น เป็นอย่างไร แล้วจึงมองหาการรักษา ที่สำคัญคือ ค่อยๆ ทดลองไปทีละสเต็ป เพื่อดูผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าเรา
นอกจากนี้ผิวของเราเองก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่ว่าจะ สถาพอากาศในที่ๆเราอยู่ ไลฟ์สไตล์ในช่วงนั้น รวมถึง กรรมพันธ์ุ หรือ ภูมิคุ้มกันของแต่ละคนด้วย ดังนั้น อะไรที่เราว่าดี เพื่อนว่าดี อาจจะไม่เหมือนกัน ถ้าเราเอาใจใส่ร่างกายและผิวของเราได้ตรงจริตกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการเลือกปรนนิบัติผิวสามารถทำให้เราเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้จริงนะ
สำหรับมหากาพย์รักษาสิว ในวันนี้ เราจึงขอแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลักๆ คือ
- การแพ้ในรูปแบบต่างๆ (Allergy) : สิว อาจจะกำลังบอกอาการแพ้โดยที่คุณไม่รู้ตัวจากการเลือกบริโภคอาหาร/ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ (Product Selection) : เคล็คลับสำคัญ คือ การรักษาสมดุลย์ให้ผิวเพื่อสร้างผิวที่แข็งแรง
- การใช้ชีวิต (Lifestyle) : เรามีวิธีการใช้ชีวิต หรือ พฤติกรรมอะไรที่ก่อให้เกิดสิว การระคายเคืองผิวโดยไม่รู้ตัวรึป่าว
ALLERGY
1.แพ้อาหารไม่รู้ตัว
อาการแพ้อาหารเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เรียกกันว่า “ภูมิแพ้อาหารแฝง” (Slow Reaction Allergy) คนส่วนมากมักไม่รู้ตัว อาการจะอยู่ในรูปแบบที่หลากหลายมากแล้วแต่คน บางคนท้องอืด อาหารไม่ย่อย อาเจียน คลื่นไส้ คัน โดยมักใช้เวลาตั้งแต่ 3 ชั่วโมงจนไปถึง 3 วัน ก็เลยทำให้เราไม่รู้ตัวจริงๆ อะแหละว่าเราไปกินอะไรมาถึงแพ้
ตัวอย่างอาหารที่คนมักแพ้
เช่น นม, ซีส, ถั่ว, ไข่, ยีสในขนมปัง, แป้งแปรรูป, ข้าวกล้อง, แตงโม, เมล่อน, สัปปะรด เป็นต้น ถ้าอยากรู้จริงๆ ว่าตัวเองแพ้อะไร สามารถไปตรวจได้ที่โรงพยาบาล หรือ คลินิก ได้เลย บอกว่ามาขอตรวจ ภูมิแพ้อาหารแฝง 222 ชนิด (IGG Food Sensitivity)
เพิ่มเติมว่านอกจากจะแพ้อาหารแล้ว การบริโภคอาหารที่มีสารกระตุ้นฮอร์โมน โดยเฉพาะในนมวัว ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เรา สิว ขึ้นอีกด้วย
2.ผิวแพ้ง่ายจากการใช้ชีวิตประจำวัน
นอกจากภายในแล้ว ภายนอกของเราก็อาจจะบอบบางไม่แพ้กัน แม้กระทั่งผมที่กรอบหน้าก็สามารถทำให้ผิวระคายเคืองจนเกิดสิวได้ ดังนั้นผิวของแต่ละคนมีโอกาสเกิดการระคายเคือง แพ้ ผื่นขึ้น คัน ต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ง่ายๆ ให้ลองสังเกตดู เช่น เกสรดอกไม้, ไรในผ้า, คนสัตว์, แมลงต่างๆ อันนี้ก็สามารถไปขอตรวจได้ที่โรงพยาบาลเช่นกันนะ
3.แพ้ ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ดูแลหน้า
ระวังให้ดีโดยเฉพาะสินค้า Popular ตามแบรนด์ดังที่ชอบเป็น Hype ป้ายยาให้เราอยากซื้อมาลองใช้ เราต้องหันมาดูส่วนประกอบกันให้มากขึ้นแล้ว สำหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่าย โดยตัวหลักที่เราควรพิจารณาก่อนซื้อ ก็เช่น
- Alcohol Free
- No Fragrant, Perfume
- No Ethanol
- No Phthalates and Parabens Free
- No SLS,SLES (สารละคายเคือง)
วิธีที่ง่ายที่สุดคือ เลือกสินค้าที่เป็นเวชสำอางค์ (Cerave, Eucerin) เน้นรักษาสิว และมีสารประกอบให้น้อยเข้าไว้ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ในรายละเอียดปลีกย่อยนั้นเราแพ้ หรือ ไม่ถูกกับตัวไหนบ้าง หรือ ไปชมคอนเท็นต์ของน้องอิ๊ง #ผลิกหลังกล่อง ดูก็ช่วยได้มากทีเดียว
ใครอยากหาส่วนประกอบของสินค้าก่อนซื้อ ลองปรึกษาในเว็ปนี้ เป็นตัวช่วงอีกทาง (เกณฑ์ในการตัดสินของเว็ปอาจจะไม่ได้เชื่อถือได้ 100% นะ)
4.แพ้ ความออร์แกนิคที่มี Essensial Oil
เวลาที่เราอยู่ในช่วงสงครามสิว เรามักจะพยายามตัดใจ และคิดว่า กลับไปใช้อะไรตามธรรมชาติ น่าจะ Back to Basic ที่สุดแล้ว (ซึ่งก็อาจจะจริง) แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราก็ต้องกลับมามองที่ส่วนผสมความธรรมชาติเหล่านั้นด้วย โดยเฉพาะสินค้าที่มีกลิ่นหอม ชวนผ่อนคลายจากภายในสู่ภายนอก ให้ความรู้สึกบวกๆ กับผิว แต่หารู้ไม่ว่า พวก Essensial Oil บางตัวอาจเป็นเหตุให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง เกิดสิวอุดตันไม่รู้ตัว! โดยเฉพาะกลุ่ม Citrus, lemon, Lavender, Perpermint เป็นต้น (แต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน)
บอกเลยว่าเสียใจมากที่กลิ่นหอมเหล่านี้ไม่เหมาะกับคนเป็น สิว ผิวแพ้ง่ายจริงๆหรอ? เอางี้นะ ลองดูจากสัดส่วนของส่วนประกอบแทนได้ ถ้าชื่อเหล่านี้อยู่อันดับท้ายๆ ยังพอทำใจได้ เพราะแปลว่าไม่ได้ใส่ในปริมาณมาก แต่ถ้าอยู่ใน Top5 แล้วละก็ทำใจเถอะนะคนดี
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องของผิวและอาการแพ้ เป็นเรื่องเฉพาะคนมากๆ เพราะฉะนั้นเราอยากแนะนำให้ทำความรู้จักผิวของตัวเอง และสังเกตอาการของผิวเป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาที่เราใช้สกินแคร์ตัวใหม่ใน Routine
PRODUCT SELECTION
5.ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหน้าที่เยอะเกินไป
ไม่ว่าสาเหตุการเกิดสิว จะเกิดจากผลิตภัณฑ์ตัวไหนก็ไม่รู้ แต่การพยายามประโคมทุกอย่างไปพร้อมๆ บนหน้าก็อาจะทำให้ผิวหน้าของเราแพ้ยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ส่วนประกอบ การแพ้สะสมของตัวที่ใช้ก่อนหน้า หรือ การชอบลองสินค้าใหม่ๆตลอดเวลา
เอาเป็นว่าลองลด ให้เหลือ 3-5 ขั้นตอนสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่ายน่าจะดีกว่านะ โดยเฉพาะข้อหลักๆ เช่น
- Cleansing Oil / Micellar Water (Eucerin Micellar Water)
- Cleanser (Cerave Hydrating Cleanser)
- Moisturiser (Cerave Facial Moisturizing Lotion / Purito Deep Sea Pure Water Cream / Eucerin UltraSENSITIVE Repair )
3.1 Toner – แล้วแต่ความชอบส่วนตัว แต่ไม่จำเป็น
3.2.Serum – แล้วแต่ความชอบส่วนตัว แต่ไม่จำเป็น - ยาแต้มสิวต่างๆ (เลือกใช้ให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น Benzac / Differin)
- Sunscreen (Canmake Mermaid Skin Gel )
6.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารประกอบเยอะ
อีกปัจจัยของการเกิดสิว และปัญหาโลกแตก คือ เราไม่รู้ว่าเราแพ้อะไรในนั้นบ้าง โดยสกินแคร์สมัยนี้ก็มีส่วนประกอบไม่ตำ่กว่า 10 ชนิด จนไปถึง 50 ชนิด การเลี่ยงที่ดีอีกวิธี คือ เลือกใช้ตัวที่มีสารประกอบให้น้อยที่สุดโดยเฉพาะผิวที่แพ้ง่าย “Less is More” จริงๆ
7.ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ถูกต้องตามคำแนะนำ
ยอมรับเรยว่าข้อนี้ คนที่ชอบลองสกินแคร์ใหม่อยู่ตลอดเวลาอาจจะพลาดได้ง่ายๆ การที่เราใช้สกินแคร์มาหลายตัวทำให้เราลืมอ่านข้อมูลข้างขวดว่าควรใช้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น Cleansing Oil บางตัวควรทา และนวดไปพร้อมกันแล้วจึงล้างออก ในขณะที่อีกแบรนด์ บอกว่าควรทาให้ทั่วหน้าแล้วแตะน้ำเพื่อนวดก่อนจะล้างออก เพราะฉะนั้นสาวๆ ก็อย่าลืมอ่าน หรือ หาข้อมูลให้ชัวร์ก่อนใช้ ก่อนจะว่าบอกผลิตภัณฑ์นี้เวิร์คหรือไม่นะจ๊ะ
8.ผิวหน้าไม่ผลัดเซลล์ที่ตายแล้ว
หลายคนที่มีปัญหาสิวอุดตันง่าย หน้าหมองคล้ำ หยาบกร้าน รูขุมขนกว้าง ดูดซึมครีมไม่ดี เพราะผิวไม่ผลัดเซลล์ผิว โดยเฉลี่ยผิวของคนที่มีสุขภาพดีแข็งแรงจะใช้เวลา 5-6 สัปดาห์ในการผลัดเซล์ผลที่ตายแล้ว และสำหรับวัยรุ่น ก็จะผลัดเร็วกว่าโดยประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น คนที่เป็นสิวจึงควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มี สาร อาทิ Salicylic Acid, Benzoyl peroxide, AHA, BHA, PHA เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากเกินไป อาจส่งผลให้ผิวแห้ง บอบบางเกินไปได้ หรือ ขาดความสมดุลย์ได้ ดังนั้นมือใหม่ควรเริ่มใช้ผลิดภัณฑ์ที่มีเปอร์เซ็นต์ต่ำ จาก 1% ค่อยๆไล่ขึ้นไป อย่ากระโดดไปใช้เปอร์เซ็นต์สูงโดยที่ไม่เคยใช้มาก่อน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ควรใช้ครีมกันแดดร่วมด้วย หรือ ผลัดเซลล์ผิวเฉพาะกลางคืนเท่านั้น
9.เลือกผลิดภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสมกับผิวเป็นสิวของตัวเอง
สำหรับคนผิวมันเป็น สิวง่าย มีสิวอุดตัน ควรใช้ BHA เนื่องจาก BHA มีเบสเป็นน้ำมัน ซึ่งสามารถลงไปฆ่าเชื้อสิวอุดตัวในรูขุมขนได้ ในขณะที่ AHA จะช่วยเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนเป็นหลัก
ส่วนการใช้ Moisturiser สำหรับคนผิวมัน เป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่าย ก็ควรใช้พวก Gel Cream, Water Cream ที่ซึมง่าย ชุ่มชื้น ไม่เหนียวและมันจนเกินไป ซึ่งจำเป็นต้องใช้นะ อย่าคิดว่าเป็นคนหน้ามันแล้วไม่ต้องเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพราะโดยมากคนที่หน้ามันจะมีผิวที่ขาดน้ำ (Dehydrate) และ ขาดความชุ่มชื้น
10.ใช้ BHA/AHA มากเกินตอนผิวบอบบาง
หลายครั้งที่เกิดสิว เรามักคิดว่าเป็นเพราะผิวอุดตัน เลยต้องขัดเซลล์ผิวซักหน่อย เลยสาดตัว BHA/AHA ไปพร้อมๆ กันทั้งเช้าและเย็น ตามด้วย Differine/Benzac เข้าไปอีก อาจทำให้ผิวระคายเคืองยิ่งกว่าเดิม! ทางที่ดีควรทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นก่อนแล้วค่อยๆกลับมาใช้ BHA/AHA ทีละนิด รวมถึงค่อยๆเพิ่ม % หากต้องการตัวแรงๆ ส่วนใครที่ใช้ตอนเช้า ก็อย่าลืมทากันแดดนะจ๊ะ
11.สครับหน้ามากเกินไปก่อกวนสิว
คล้ายกันกับ BHA/AHA เนื่องจากตอนนี้ผิวหน้าเราอ่อนแอ และบอบบางอยู่แล้ว บวกกับการใช้สครับหน้าที่เป็น Physical Exfoliate เข้าไปบาดผิวอีก (แม้ว่าจะเป็นเศษของเปลือกธรรมชาติใดๆ ก็ตาม) แนะนำอย่างยิ่งว่าไม่ควรไปรบกวนผิวด้วยประการทั้งปวง ถ้าอยากดูแลผิวลองทำเป็น Mask ข้าว หรือ ว่านหางจระเข้ เติมความชุ่มชื่นน่าจะดีกว่า
12.หน้าขาดความสมดุลย์
อาการแบบมันนอก แห้งใน คือ สัญญาณหลักของคนที่ผิวหน้าขาดความสมดุยล์ และเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆของคนเป็นสิว คือการคืน “ความชุ่มชื่น” ให้แก่ผิว เป็นอะไรที่สำคัญมาก แต่หลายคนกลับไปโทษว่าตัวเองหน้ามัน จึงเกิดสิว คนที่มีลักษณะผิวแบบมันด้านนอก แต่ข้างในแห้ง จึงเป็นวงจรของผิวที่ขาดน้ำ ดังนั้นไม่ว่าจะหน้ามัน หน้าแห้ง หน้าผิวผสม การรักษาผิวให้สมดุลย์ ชุ่มชื้น คือ คีย์หลักของผิวแข็งแรง และสุขภาพดีเลยทีเดียว ได้ยินอย่างงี้แล้วเติมความชุ่มชื่นแล้วไปนอนซะ!
13.ผิวขาดน้ำมัน
ก่อนที่จะแบนคำว่า “Oil” ไปทั้งหมด อยากให้ทำความเข้าใจเรื่องของน้ำมันกันใหม่นิดนึง ในโลกของคนเป็นสิว จริงอยู่ที่น้ำมันบนหน้าเราเป็นเหตุให้เกิดสิวอุดตันนานาชนิด แต่ปัญหาของคนเป็นสิวคือ ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ต่อมไขมันผลิต Sebum (สารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวหนัง) ขึ้นมาเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เมื่อความมันมาสะสมบนหน้าของเรา ประกอบกับการสะสมของแบคทีเรียบนผิวหน้า, เซลล์ผิวที่ไม่ค่อยผลัด และ นานาเหตุผล จึงทำให้เราเกิดสิวอุดตันได้ ดังนั้นที่พูดมาอย่าเพิ่งงง การมีน้ำมันบนในหน้าเป็นธรรมชาติของผิว (แบบที่คนผิวดีๆเค้ามีกัน) ลองหาน้ำมันธรรมชาติเหล่านี้มาลองดูได้นะ (ทีละนิด ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป)
- ผิวมัน (Oily Skin) : Squalene, Hemp Seed Oil, Evening Primrose Oil, Grape Seed oil, Rosehip Oil, Safflower Seed Oil, Calendula Oil, Pumpkin Seed Oil
- ผิวแห้ง (Dry Skin) : Avocado Oil, Olive Oil, Sea Buckthorn Oil, Green Tea Seed Oil, Sweet Almond Oil, Marula Oil
เพิ่มเติมว่า กลุ่มของ Oil จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก
- Linoleic Acid – OMEGA6 (ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน) : ซึ่งก็จะเหมาะกับคนผิวมันอุดตันง่าย
- Oleic Acid – OMEGA9(เสี่ยงต่อการอุดตัน) : ซึ่งก็จะเหมาะกับคนผิวแห้ง ต้องการความชุ่มชื้นสูง
LIFESTYLE
14.ไม่ถ่ายทุกวันสาเหตุสิว
สาวๆส่วนมากที่มีปัญหาสิวบริเวณ แก้ม กราม คาง มักเกิดจากการขับถ่ายไม่ดี ยิ่งถ้าจะลดความอ้วนไปด้วยอีก ยิ่งถ่ายยากเข้าไปใหญ่ บางคนอาจไม่รู้ตัวเพราะไม่รู้สึกอึดอัดเนื่องจากทานน้อย ส่วนบางคนคนอาจรู้สึกร้อนๆ ตัวเพราะมีของเสียสะสมในร่างกายจากการไม่ขับถ่าย จนทำให้รู้สึกร้อนๆ จากภายใน ผิวขาดน้ำ ไม่สมดุล เกิดสิวไปอีก
ทางที่ดี คือ ให้พยายามฝึกให้ร่างกายเรียนรู้ที่จะขับถ่ายตอนเช้าทุกๆ วัน เช่น การทานอาหารเช้า, ทานกล้วยน้ำว้า, ทานน้ำเยอะๆ, ทานวิตามินซี หรือน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง, หรือใครจะลองทานอาหารประเภท Probiotic เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโสะ ก็ช่วยได้
ส่วนคนที่มองหาตัวช่วยแบบด่วนๆ สามารถลองอาหารเสริม Probiotic7 หรือ Probiotic10 (สำหรับคนแพ้นม) เพื่อปรับสมดุลลำไส้ ช่วยย่อย และช่วยเรื่องการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย และลดอุณหภูมิภายในอีกด้วย
15.นอนดึก / นอนหลับไม่สนิท
เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่าเวลาที่ควรนอน คือ ช่วงเวลา 4ทุ่ม-ตี2 เพราะ Growth Hormone จะทำงานในช่วงนั้น ซึ่งก็จะช่วยส่งเสริมการรักษาสิว และ สุขภาพของเราไปพร้อมๆกัน แต่สำหรับคนที่นอนเร็วแล้ว แต่ยังรู้สึกไม่ได้คุณภาพ อาจเป็นเพราะหลับไม่สนิท หรือ คุณภาพการหลับไม่ดีจากความเครียดเรื่องงานต่างๆ ลองพยายามห่างหน้าจอคอม มือถือ ทีวี 3-5 ชั่วโมงก่อนนอนดูนะ ถ้ายังไม่เวิร์คจริงๆ ลองปรึกษาหมอเรื่องยาเมลาโทนินดูนะ
16.กินน้ำน้อย
อาการขาดน้ำของเราจะส่งผลไปทุกๆ ส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะคนเป็น สิว เห็นได้ชัดๆ เลยคือ หน้ามันว๊าปเลย แต่ข้างในขาดความชุ่มชื้น ปากแห้งลอก อุณหภูมิผิวจะร้อนผ่าวๆ จากภายใน นอกจากนั้นยังทำให้ขับถ่ายยากด้วย รู้อย่างงี้แล้วลองทำตามเหล่าบิวตี้บล็อคเกอร์ที่เค้ากินน้ำวันละ 1.5 ลิตร กันแล้วหละ
17.ประจำเดือนมาไม่ปกติเลยเป็นสิว
เชื่อเลยว่าหลายคนเป็นแต่ไม่ได้ใส่ใจ อาการประจำเดือนมาขาดๆ หายๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมาก ในสาววัยทำงานมักจะเกิดจากความเครียด (Cortisol Hormone) พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ ฮอร์โมนในร่างกายขาดความสมดุล โดยคนที่มีหน้ามัน สิวขึ้นง่าย ขนดก ก็เป็นสัญญาณเตือนของร่างกายว่าเราอาจมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติ (ในผู้หญิง จะมีฮอร์โมนเพศชายด้วยเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ควรมีมากเกินไป) ทางที่ดีเราขอแนะนำให้ไปปรึกษาคุณหมอแผนกสูตินารีด้วยนะ
18.สะสมแบคทีเรียสาเหตุสิวบนแบบไม่รู้ตัว
ไม่ว่ามือจะไปจับอะไรมาแล้วมาจับหน้า หรือ มือถือที่สกปรกมาโดนหน้า ก็อาจเป็นสาเหตุของการสะสมของแบคทีเรียบนหน้าแบบไม่รู้ตัว รวมถึงการไม่ค่อยเปลี่ยนปลอกหมอน หรือ ใช้ผ้าเช็ดตัวที่อับชื้นเซ็ดหน้า นอกจากนี้ยังรวมถึงการสะสมแบคทีเรียบนตัวด้วย โดยเฉพาะเวลาหลังออกกำลังกาย รู้อย่างนี้ก็ต้องกลับไปสังเกตุพฤติกรรมตัวเองแล้วหละ
19.แพ้ ยาสระผม หรือ ปล่อยให้ผมโดนหน้า
เรื่องของการเลือกยาสระผม ก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเลือกเป็นยาสระผมสำหรับเด็ก หรือ อาจจะมองแบรนด์มีความออร์แกนิค อย่าง Common Ground ข้อดีของแบรนด์นี้คือ เน้นส่วนผสมธรรมชาติ ที่ค่อยข้างเรียบง่าย (ไม่มี SLS /Formaldehyde / Isothiazolinone / Mineral Oils / Cocamine DEA / Paraben)
นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องยาสระผมได้แล้ว ยังต้องคำนึงถึงการไม่ให้ผมมาโดนหน้าด้วย ทั้งเวลาตื่นและเวลานอน บางคนเอาจริงๆ อาจจะไม่ได้แพ้ยาสระผมก็ได้นะ แต่ผมของตัวเองแข็ง/หนามากเสียจนมาทิ่มหน้าอันบอบบาง จนเกิดการระคายเคืองและเกิดสิวตามมา ทางที่ดีคือ ให้หาอะไรมาคาดผมให้หลวมๆ หรือ จะมัดผมไว้หลวมๆ ก็ได้โดยเฉพาะเวลานอน
20.ไม่ทาครีมกันแดด
การไม่ทาครีมกันแดดมีผลทำให้เกิดสิว มากกว่าการไม่ทาหลายเท่า เนื่องจากผิวอันบอบบางของเรา เมื่อโดนรังสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น UVA/UVB จะทำให้ไขมันในรูขุมขนของเราเกิดความเหนียวและกลายเป็นสิ่งอุดตันบนใบหน้าแทน ดังนั้นความเชื่อที่ว่า การทาครีมกันแดดแล้วทำให้เกิดสิวอุดตันนั้น อาจจะมาจากการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับผิวของเรามากกว่า
ลองไปชมรีวิวกันแดดของน้องอิ๊ง #ผลิกหลังกล่อง
(ทางเรานำคลิปน้องอิ๊งมาบอกต่อเพียงเพื่ออยากให้ผู้อ่านได้ไปค้นหาข้อมูลต่อด้วยตัวเอง โดยไม่ได้มีความตั้งใจจะละเมิดลิขสิทธิ์ใดๆ)
21.ชอบกินของหวาน
น้ำตาลเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สิวขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “You are what you eat” การกินของหวานจะทำให้อินซูลินในเลือดสูงขึ้น ซึ่งจะไปกระตุ้นการผลิตแอนโดรเจน ที่ทราบกันดีว่าเป็นตัวเพิ่มการผลิตไขมัน ทำให้เกิดสิวในรูปแบบต่างๆนั่นเอง
#สรุป
อยากให้คนที่เป็นสิวไม่หายสักทีมีกำลังใจ และฮึดสู้เพื่อเข้าใจ และรักษาผิวหน้าของตัวเองให้ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆทดลองไปทีละอย่าง กว่าที่อาการจะเห็นผลก็ขึ้นกับบุคคลด้วย 1-3 เดือน ก็อยากให้ทุกคนใจเย็นๆ เพราะการหาเหตุผลของการเป็นสิวอาจมีปัจจัยร่วมหลากหลายอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม การมีสิวก็ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว
แต่ยังเป็นการ ..ฟังเสียงของร่างกาย.. ว่าจึงๆ แล้วอาการต่างๆ ที่เราเป็นนั้น
ร่างกายกำลังบอกอะไรเราอยู่นะ
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ จากผู้หญิงสมัยนี้ :
6 สิ่งที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ครีมกันแดด ทายังไงให้ได้ผลสูงสุด
สูตรลัด เลือก MOISTURIZER กู้ผิวแห้ง ผิวพัง แพ้ง่าย
คำศัพท์ส่วนผสมสกินแคร์ ที่สาวๆ ควรรู้ และคำศัพท์ของการดูแลผิวพรรณ