
5 steps ในการ ตกหลุมรัก รักด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5
เชื่อมั้ย? ก่อนที่เราจะรักหรือรู้สึกดีกับใครสักคน เรามองกันที่หน้าตา เข้าหากันที่รูปลักษณ์ก่อนที่ความรู้สึกดีๆ จะเกิดขึ้น “ประสาทสัมผัสทั้ง 5” จะทำหน้าที่ของมันเป็นลำดับขั้น เรามาเช็คกันว่าคุณ ตกหลุมรัก กันที่ Step ไหน
การ ตกหลุมรัก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้วเรา รักด้วยหัวใจหรือรักด้วยสมอง? คำตอบของคำถามนี้ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์จากผู้เชียวชาญแล้วว่า… ความรักหรือความสัมพันธ์นั้นเริ่มต้นที่สมองของเรา
Butterfly in in stomach อาการของการ ตกหลุมรัก
อาการผีเสื้อบินในท้องของ การตกหลุมรัก ไม่ได้เป็นเรื่องของหัวใจหรือหาคำอธิบายได้ยากอย่างที่เราเคยเข้าใจกัน แต่เกิดจากกระบวนการวิเคราะห์อย่างรวดเร็วของสมองร่วมกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
Step 1: ดวงตา ด่านแรกของหัวใจ

หลายครั้งที่ความสัมพันธ์ของคนเรามักจะเริ่มต้นจากความพึงพอใจในเรื่องหน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก และนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะผู้เชี่ยวชาญได้พิสูจน์แล้วว่านั่นคือกลไกของสมองและสัญชาตญาณของคนเรานั่นเอง
เมื่อใดก็ตามที่เราสังเกตเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งบนตัวของคนที่เราชื่นชอบ หรือพึงพอใจ อาจจะเป็นสัญลักษณ์ความงาม เช่น ผิวพรรณที่เรียบเนียน ดวงตาที่สดใส เส้นผมที่เงางาม หรือรูปร่างที่สมส่วน สมองก็จะเริ่มประมวลผลจากสิ่งที่ดวงตาส่งมากระตุ้นสัญชาตญาณให้ให้เราเข้าไปใกล้คน ๆ นั้น เพื่อจะส่งต่อให้ประสาทสัมผัสอื่น ๆ ได้เริ่มทำงานและสำรวจคน ๆ นั้นบ้าง
Step 2: จมูก อวัยวะมหัศจรรย์ที่รับรู้ได้มากกว่าแค่กลิ่นน้ำหอม

เคยรู้สึกหลงกลิ่นของใครซักคนจนไม่อยากอยู่ห่างเขามั้ย ถ้าใช่เราจะเล่าให้ฟังว่า นั่นคือกลิ่นน้ำหอมหรือ “ฟีโรโมน” กันแน่
จมูกของคนเรามีความสามารถในการรับรู้ที่มหัศจรรย์มาก เพราะไม่เพียงแค่รับรู้กลิ่นทั่ว ๆ ไปได้เท่านั้น แต่ยังสามารถรับรู้สัญญาณเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นได้อีกด้วย
จากการทดลองของผู้เชี่ยวชาญพบว่า ผู้ชายสามารถรับรู้กลิ่นฟีโรโมนของผู้หญิงได้ดีในช่วงที่ผู้หญิงคนนั้น ๆ อยู่ในระยะตกไข่ และกลิ่นของฟีโนโมนนี้เองที่ทำให้ระดับเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนส์เพศชายเพิ่มระดับขึ้น จนเกิดการกระตุ้นและผลักดันให้ผู้ชายอยากจะขยับเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นมากขึ้น เพื่อที่ประสาทสัมผัสอื่น ๆ จะได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมและเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ด้วย
ในส่วนของผู้หญิง จมูกของผู้หญิงสามารถรับรู้ MHC (Major Histocompatibility Complex) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ร่างกายใช้ต่อสู้กับเชื้อโรค โดยผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบคนที่มีกลิ่นโมเลกุลแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งนั่นเป็นสัญชาตญาณการเลือกคู่ของผู้หญิงที่ว่า ผู้ชายที่มีโมเลกุล MHC แตกต่างและหลากหลาย อาจจะมีข้อได้เปรียบต่อการอยู่รอดของลูกหลานนั่นเอง
Step 3: หู รับรู้โทนเสียงที่เราหลงใหล

เคยสงสัยมั้ย ว่าทำไมผู้หญิงทำเสียงแบ๊วแล้วเรารำคาญ แต่ผู้ชายกลับชอบ จากการศึกษาพบว่า ผู้ชายส่วนใหญ่จะชื่นชอบผู้หญิงที่มีโทนเสียงสูงแหลม มีลมหายใจแทรก และมีช่วงความถี่ที่กว้าง สอดคล้องกับรูปร่างของเพศหญิงที่เล็กและบางกว่า
ในทางกลับกัน ผู้หญิงก็มักจะชื่นชอบหรือหลงใหลในเสียงที่ทุ้มต่ำ และมีช่วงความถี่ที่แคบกว่าของเพศชาย ซึ่งบ่งบอกถึงรูปร่างที่ใหญ่กว่าของพวกเขา และยิ่งผู้ชายมีเสียงที่ทุ้มต่ำมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีแนวโน้มที่ทำให้ผู้หญิงจดจำเขาได้ดีมากยิ่งขึ้นไปด้วย
Step 4: การสัมผัสและสภาพแวดล้อม มีส่วนในการดึงดูดความสนใจ

สิ่งของที่คุณสัมผัสอยู่ก็มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของคุณที่มีต่อคนอื่นได้ หากคุณกำลังจะตัดสินนิสัยหรือบุคลิกของใครซักคน ลองซักเกตสิ่งของที่คุณสัมผัสอยู่ก่อนที่จะเคาะว่าคน ๆ นั้นใช่สำหรับคุณหรือไม่
จากการทดลองของผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่า คนที่ถือที่แก้วกาแฟร้อนมักจะมองหรือตัดสินของคนอื่นว่าเป็นคนที่มีความสุข ใจกว้าง และอารมณ์ดี ในขณะที่คนถือแก้วกาแฟเย็นกลับมีแนวโน้มที่จะตัดสินคนอื่นว่าเป็นคนเย็นชา เจ้าหลักการ และไม่แสดงออกเรื่องความรัก
ไม่เพียงเท่านั้น สภาพแวดล้อมอื่น ๆ ก็มีผลต่อการสานสัมพันธ์ของคนเราเช่นกัน เช่น การนั่งอยู่บนโซฟาที่อุ่นนุ่มอาจทำให้คุณผูกมิตรกับคนอื่นได้ง่ายกว่าการที่คุณนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกที่ทั้งแข็งและเย็นได้ด้วย
Step 5: จูบแรก ชี้เป็นชี้ตายความสัมพันธ์ได้

ว่ากันว่าตอนจูบนั้นร่างกายของเราจะเกิดปฏิกิริยาและการเปลี่ยนแปลงมากมาย จนบางครั้งก็รู้สึกว่าความสามารถในการรับรู้เรื่องอื่นรอบตัวในขณะนั้นผิดเพี้ยนไปเลย บางคนอาจจะรู้สึกว่าเวลาช่วงนั้นยาวนานกว่าความเป็นจริง หรือบางคนก็รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน ทุกอย่างรอบตัวดูจะเชื่องช้าเป็นภาพสโลโมชั่นไปซะหมด
โดยความรู้สึกที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเกิดจากสารนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) ที่ร่างกายปล่อยออกมานั่นเอง ซึ่งเจ้าสารตัวนี้จะทำหน้าที่คล้ายกับอะดรีนาลีน โดยมันจะปิดกั้นการรับรู้ต่อสิ่งที่หันเหความสนใจรอบ ๆ ตัวของเรา เพื่อให้เราสนใจกับสิ่งสำคัญที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งก็คือการจูบเพียงอย่างเดียวนั่นเอง
แต่รู้มั้ยว่าช่วงเวลามหัศจรรย์นี้ส่งผลมากมายต่อความเป็นไปของความรู้สึก จากการสำรวจพบว่าชายหญิงจำนวนมาก สูญเสียความสนใจของพวกเขาต่ออีกฝ่ายหลังจากผ่านจูบแรกแย่ ๆ แต่สำหรับบางคนที่ผ่านด่านนี้ไปได้ ก็มีแนวโน้มที่จะมีจูบที่ดีจริง ๆ ในอนาคตได้เหมือนกันนะ
ทั้งหมดนี้อาจจะฟังดูเหมือนทฤษฎีวิทยาศาสตร์และการทำงานของสมองที่เย็นชา มากกว่าจะเป็นความรู้สึกที่โรแมนติก แต่อย่าลืมว่าความรู้สึกบางอย่างก็ไม่ได้เกิดขึ้นสมองโดยตรงเท่านั้น ครั้งหน้าหากคุณสาว ๆ ชอบหรือมีความรัก ก็ลองสังเกตและสนุกไปกับการตอบสนองของร่างกายต่อเรื่องราวเหล่านั้นกันดีกว่าค่ะ