
ทฤษฎีความผูกพัน (Attachment Style Theory ) :ทฤษฎีที่ทำให้รู้ว่าเราเป็นคนรักแบบไหนและเปลี่ยนรักครั้งนี้ให้รอด!!
ทฤษฎี ความผูกพัน (Attachment Style Theory ) ที่ริเริ่มโดย John Bowlby ซึ่งบอกเราว่าความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เลี้ยงดูในวัยเด็ก 👨👩👧👦 ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือพี่เลี้ยง จะสร้างรูปแบบการแสดงความรักและความคาดหวังต่อคนรักของเราในอนาคตได้
ตั้งแต่เด็กเราทุกคนต่างก็มีความคาดหวัง ที่จะได้รับความรักจากคนที่ดูแล 🤱 บางคนอาจจะได้รับความรักอย่างเต็มที่ ขณะที่บางคนอาจจะขาดความรักจากคนที่ดูแลเราเพราะปัญหาต่าง ๆ เช่น พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ พ่อแม่ไม่แสดงความรัก ฯลฯ การปฏิบัติในวัยเด็กของผู้เลี้ยงดูจะกลายมาเป็นตัวกำหนดรูปแบบความสัมพันธ์กับคนรักของเราในปัจจุบันได้ด้วย ❤️
ผู้หญิงสมัยนี้ จึงอยากชวนทุกคนมาสำรวจรูปแบบความสัมพันธ์ของตัวเองตามทฤษฎี ความผูกพัน จะรู้ได้ว่าตัวเองเป็นคนรักแบบไหน เพื่อให้ทำให้เข้าใจ และนำมาปรับใช้ให้ความรักตอนนี้ไปรอด
ประเด็นที่น่าสนใจ
ความผูกพัน แบบมั่นคง (Secure Attachment)

ถ้าคุณเป็นคนที่มีความมั่นใจในเรื่องความรัก ว่าเมื่อรักใครเราก็จะได้ความรักนั้นกลับมา มีความรู้สึกว่าอยากอยู่ใกล้ชิดคนรัก แต่ถ้าห่างกันก็ไม่เป็นไร เพราะคุณเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ สามารถจัดการกับปัญหาแบบตรงๆ โดยไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ได้ ยินดีด้วย เพราะคุณคือคนรักที่มี ความผูกพัน แบบมั่นคง (Secure Attachment) 👥
🏠พื้นฐานครอบครัว: ในวัยเด็กคุณคือคนที่มีประสบการณ์ในครอบครัวที่อบอุ่น ได้รับความรักจากพ่อแม่หรือคนเลี้ยงดูอย่างเต็มที่ จึงไม่รู้สึกว่าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวไม่รักเรา ส่งผลให้เมื่อเติบโตขึ้นมาจึงเป็นคนที่มีความมั่นใจในเรื่องความรัก
📍วิธีปรับตัว : ปกติแล้วคุณจะเป็นคนที่สามารถสื่อสารกับคนรักได้ดี สามารถช่วยส่งเสริมคนรักที่มีรูปแบบความผูกพันที่ไม่มั่นคง (Insecure) แบบอื่น ๆ ได้ด้วย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องคอยคอยพยุงความสัมพันธ์ให้ราบรื่นไปตลอดฝ่ายเดียว
ถ้าคนรักคุณมี ความผูกพัน แบบมั่นคงคุณผู้โชคดีเลยหล่ะ เพราะว่าคนที่มีความผูกพันแบบนี้มักมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุข เมื่อทะเลาะกันหรือมีปัญหาก็สามารถคุยกันตรงๆ เชื่อว่าคนรักของคุณพร้อมที่จะจับมือก้าวข้ามปัญหาไปพร้อมกับคุณอย่างแน่นอน
ความผูกพัน แบบกังวล (Anxious Attachment)

ถ้าคุณคือคนที่อยากอยู่ใกล้ชิดกับคนรักตลอดเวลา กลัวการอยู่ห่างจากคนที่รัก มีแนวโน้มจะขี้หึงง่าย ไม่ค่อยกล้าเคลียร์เมื่อความรักมีปัญหา กลัวว่าคนรักจะหายไป เพราะลึกๆ แล้วคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจและเชื่อใจคู่รักของตนเอง คุณคือคนรักที่มีความผูกพันแบบกังวล (Anxious Attachment) 👥
🏠พื้นฐานครอบครัว : ความผูกพัน แบบกังวล คือรูปแบบความผูกพันแบบไม่มั่นคง (Insecure) ที่เกิดขึ้นจากตอนเด็กๆ พ่อแม่หรือคนที่ดูแลไม่ได้ดูแลเด็กอย่างต่อเนื่อง บางครั้งพ่อแม่ก็ตามใจ แต่บางครั้งพ่อแม่กลับถอยห่างออกไปไกล ไม่ให้ความสนใจ ทำให้มีความรู้สึกต่อความรักที่ไม่มั่นคง ไม่แน่นอน มักจะติดพ่อแม่มากๆ เพราะต้องการความปลอดภัยและช่วยเหลือตลอดเวลา ส่งผลให้เติบโตมาจึงกลายเป็นคนไม่มั่นคง ไม่แน่ใจในความรักที่คนอื่นมอบให้ และมักจะกลัวว่าคนอื่นจะไม่รักตัวเอง
📍วิธีปรับตัว : ถ้าคุณมีรูปแบบความผูกพันเช่นนี้อาจจะสร้างปัญหาให้กับความสัมพันธ์ได้ แต่ก็สามารถจัดการได้ ถ้าคุณหมั่นสังเกตและรู้เท่าทันตนเองว่ากำลังคิดและรู้สึกอะไร เรียนรู้ที่จะพึ่งพิงคนอื่นให้น้อยลง เคารพในคนรัก ให้ความเชื่อใจมากขึ้น
ถ้าคนรักของคุณมีความผูกพันแบบกังวล คุณก็ควรจะมอบความรัก ความมั่นใจ ความสม่ำเสมอคงให้กับเขา ให้เขาเชื่อใจเราว่าเรารักเขาและจะอยู่ข้าง ๆ เขาเสมอ ไม่นอกใจไปไหน
ความผูกพันแบบหลีกเลี่ยง (Avoidant Attachment)

ถ้าคุณที่ต้องการความเป็นอิสระสูง ไม่ชอบแสดงความรัก มักจะหลีกเลี่ยงความผูกพันทุกรูปแบบ ปฏิเสธที่จะอยู่ใกล้ชิดกับคนรัก ไม่ค่อยสนใจในคนรักของตนเอง เก็บความรู้สึกเก่ง หากถูกกระทำไม่ดีใส่หรือข่มขู่ว่าจะเลิกรา มักจะเงียบ ไม่สนใจ และทำตัวเองให้ห่างเหินโดยไม่ปรับความเข้าใจ คุณคือคนรักที่มีรูปแบบ ความผูกพัน แบบหลีกเลี่ยง (Avoidant Attachment) 👥
🏠พื้นฐานครอบครัว : ความผูกพันแบบหลีกเลี่ยง เป็นอีกหนึ่งรูปแบบความผูกพันแบบไม่มั่นคง (Insecure) คนรักรูปแบบนี้ เป็นคนที่ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่พ่อแม่หรือผู้ที่เลี้ยงดูอาจไม่ได้ให้ความรักอย่างเต็มที่ อาจจะอยู่ห่างไกลจากคนในครอบครัวเมื่อสมัยเด็ก หรือคนในครอบครัวปฏิบัติด้วยกิริยาท่าทางที่ห่างเหิน เย็นชา ไม่ใส่ใจ หรือมีการใช้ความรุนแรงกันภายในบ้าน เมื่อเติบโตมาจึงไม่ได้รู้สึกว่าต้องการความรัก ปิดกั้นความรู้สึกของตัวเอง เพราะไม่อยากเสียใจ และจะพยายามพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด เพราะไม่อยากมีความผูกพันกับคนอื่
📍วิธีปรับตัว : ถ้าคุณเป็นคนที่มีรูปแบบความผูกพันแบบหลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวอาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อมีคนรักก็ควรที่จะเอาใจใส่คนรักให้มากขึ้น มองหากิจกรรมที่สามารถใช้เวลาร่วมกันได้
ถ้าคนรักคุณมีรูปแบบความผูกพันแบบหลีกเลี่ยง ควรจะมอบพื้นที่ส่วนตัว ให้เขาได้ทำอะไรในแบบที่เขาอยากทำคนเดียวได้ ไม่บังคับ ผูกมัด หรือฝืนใจให้เขาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่เรียกร้องความรักจากเขามากเกินไป แต่คอยเป็นกำลังใจ และอยู่ข้าง ๆ ทุกครั้งที่เขาต้องการ
ความผูกพันแบบหวาดกลัว (Fearful Attachment)

ถ้าคุณเป็นคนที่เมื่อเริ่มคบกับแฟนก็อยากจะอยู่ใกล้ชิด อยากทำความรู้จัก จะใช้เวลากับคนรักเยอะๆ แต่พอเริ่มสนิมสนม รู้ใจมากๆ จะเริ่มถอยห่าง เกิดความกังวล มีความคิดว่าถ้าอีกฝ่ายรู้จักคุณมากๆ แล้วอาจจะไม่ชอบคุณอีกต่อไป หรือกลัวการถูกหักหลัง เพราะลึกๆ เชื่อว่าไม่มีใครที่จะรักคุณจริง คุณคือคนที่มีรูปแบบความผูกพันแบบหวาดกลัว (Fearful Attachment)
🏠พื้นฐานครอบครัว : คนที่มีรูปแบบความผูกพันแบบหวาดกลัว มักจะเป็นคนที่มีประสบการณ์วัยเด็กที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเผชิญการสูญเสียของคนใกล้ชิด ถูกทอดทิ้ง หรือมีการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงทางกาย วาจา ใจ ทำให้กลายเป็นคนที่ไม่ไว้ใจผู้คนรอบข้าง เมื่อโตมาเป็นผู้ใหญ่จึงกลายเป็นคนที่หวาดระแวงในความสัมพันธ์ พยายามสร้างกำแพงเพื่อนำมาป้องกันตนเองจากความผิดหวังต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็มองหาความรักเพื่อมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายในวัยเด็ก
📍วิธีปรับตัว : ถ้าคุณ เป็นคนที่มีรูปแบบความผูกพันแบบหวาดกลัว สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ self-awareness หรือความเข้าใจในตัวเอง สำรวจความคิดตัวเองบ่อยๆ เมื่อเริ่มมีความรู้สึกหวาดระแวงคนรอบข้าง ว่าคุณคิดไปเอง คุณเปรียบเทียบเรื่องราวของปัจจุบันกับอดีตอยู่หรือเปล่า แทนที่จะกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ควรเรียนรู้ที่จะค่อยๆ เปิดใจ ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้โอกาสผู้อื่น และให้โอกาสตนเองที่จะได้อยู่กับปัจจุบัน
ถ้าคนรักของคุณมีมีรูปแบบความผูกพันแบบหวาดกลัว สิ่งแรกที่คุณต้องให้คือความเชื่อใจและให้ความสม่ำเสมอ ช่วงจีบกันทำยังไง คบกันไปแล้วก็ควรทำแบบเดิม เพื่อให้คนรักมั่นใจว่าคุณจะไม่เปลี่ยนไป ไม่ทิ้งเขาในอนาคต ความเชื่อใจยังสามารถทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า สามารถมีความรักดีๆ ได้นะ
ที่มาข้อมูล : www.psychologytoday.com / www.mindbodygreen.com/
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ จากผู้หญิงสมัยนี้ :
M A N I P U L A T I V E R E L A T I O N S H I P : รู้ ทัน 4 สัญ ญาณ แฟน จอม บงการ ที่ เจอ แล้ว รีบ จัด การ ซะ
ไม่ได้ หมด รัก แต่ หมด ไฟ : 3 สัญญาณ R E L A T I O N S H I P B U R N O U T พร้อม วิธี แก้ไข ให้ ไม่ หมด ไฟ ใน ความ สัม พันธ์
HEALTHY RELATIONSHIP : สำรวจ ความ สัม พันธ์ ที่ ดี ต่อใ จ มี ลักษณะ อย่าง ไร ใช่ เรา รึ เปล่า?