ปราง-พิมพ์ภัทร์ กับการลองผิดลองถูกจนในเจอสิ่งที่รัก ในอาชีพ ACTING COACH
หากจะพูดถึงภาพยนตร์ ซีรี่ส์ หรือแม้แต่มิวสิควิดีโอ เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องมีฉากใดฉากหนึ่ง
ที่ประทับอยู่ในใจ จนจำได้ว่า ‘ซีนนี้นักแสดงเล่นดีจัง อินมาก ร้องไห้ ตื่นเต้น ขำตามไม่หยุด’
ซึ่งกว่าที่นักแสดงเหล่านั้นจะมาสวมบทบาทเป็นตัวละครที่โลดแล่นในชิ้นงานต่างๆ ได้
ก็จะต้องผ่านขั้นตอนการฝึกซ้อม และทำ workshop สร้างความเชื่อกันอยู่นานร่วมเดือน
โดยกระบวนการนี้ของนักแสดงจะถูกดูแลโดยคนที่เป็น ‘Acting Coach’
บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการแสดงดีๆ ที่ทุกคนได้ชม
แต่ก็มีน้อยคนที่จะรู้ว่าอาชีพนี้ ทำอะไรบ้าง? เรียนสาขาไหนถึงจะได้เป็น? จะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็นได้ไหม? เหมาะรึป่าว?
ผู้หญิงสมัยนี้ ในชีรี่ย์ชุด ฝัน/ อยู่/ คือ เลยได้เชิญ ‘คุณปราง พิมพ์ภัทร ชูตระกูล’ Acting Coach, ผู้ออกแบบ Workshop การแสดง และเจ้าของเพจ ‘Self-Factory’
ตัวจริงเสียงจริง มานั่งคุยแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานในด้านนี้แบบละเอียดยิบ ตั้งแต่ความฝันจะเป็นนักการฑูตสู่อาชีพด้านการแสดงที่รู้สึกใจพองทุกครั้งที่ได้ทำ
คุณปรางมาถึงพอดีเลย เราไปคุยกับเธอกันดีกว่า…
ฝัน/ สิ่งที่ฝันในวัยเด็ก
Q: แนะนำตัว
A: สวัสดีค่ะ ปรางนะคะ พิมพ์ภัทร ชูตระกูลค่ะ
Q: ‘อาชีพในฝัน’ และ ทำไมถึงอยากเป็น?
A: ฝันอยากเป็นนักการฑูต อยากทำงานในกระทรวงต่างประเทศอะไรอย่างเนี่ย ทำงานเกี่ยวกับด้านการฑูต …รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ได้สื่อสาร
แล้วก็เราเป็นคนชอบพูดชอบคุยตั้งแต่เด็กๆเราก็คิดว่ามันน่าจะเหมาะกับเรา แล้วมันก็ เฮ้ย เท่ห์อ่ะ เก๋แบบนี้ คิดเองตอนนั้น
Q: ที่บ้านว่ายังไงบ้าง?
A: …ดีอย่างนึงที่แบบ ที่บ้านซัพพอร์ตอยากเป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ขอแค่เป็นสิ่งที่เราชอบ…
อยู่/ เส้นทางการเรียนจากเด็กวิทย์ สู่ เด็กศิลป์ และรัฐศาสตร์ สู่ การละคร
Q: ตอนอยู่มัธยมเรียนอะไร?
A: ตอนเทอมเเรก เรียนสาย วิทย์-คณิต แล้วก็ย้ายไปอยู่ศิลป์-คำนวณค่ะ พอเรียนไปแล้วรู้สึกว่า เราไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ
แล้วเราก็เลยรู้สึกว่า เอ้ย มันไม่ได้เป็นตัวเองเลย ก็เลยเปลี่ยนสาย
Q: มหา’ลัยล่ะ?
A: ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ป.ตรี พี่ปรางเรียนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แล้วก็ตอน ป.โท เรียนคณะจิตวิทยา จุฬาฯ เหมือนกัน
Q: แล้วเบนเข็มมาทางศิลปะการละครได้ยังไง?
A: คือ จริงๆ ใจเรามันเริ่มเปลี่ยนมาตั้งแต่ก่อนที่จะเอนทรานซ์ เพราะว่าก่อนที่จะเลือกคณะ เราก็ไปอ่าน syllabus ของหลักสูตร ว่า รัฐศาสตร์มีกี่สาขา
เราก็เห็นว่า สาขาการฑูตอ่ะ เราก็ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ เราก็เลือก แล้วเราก็เลือกลำดับที่ 2 เป็นสาขาสังคมวิทยา มนุษยวิทยา ด้วยตัวรายวิชาของมัน น่าสนใจมาก
แล้วปีนั้นคะแนนก็สูง เราก็เลยติดสาขานี้ ซึ่งเราก็ดีใจนะ แล้วตอนนั้นก็ยังคิดว่ายัง on track กับการเป็นนักการฑูตอยู่ แล้วคิดว่าเดี๋ยวจบไปแล้วค่อยไปสอบ
แต่ว่า คุณแม่เป็นคนแอบกระซิบว่า รู้รึเปล่าว่าที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ภาควิชาศิลปการละคร น่าจะเหมาะกับลูกนะ ลองไปดูไหม…
เราก็เลยไปลองลงเรียน ตอนปี 1-2 นี่แหละ จำไม่ได้ เราก็เลยเลือกเป็นวิชาโท แล้วก็ไม่ออกมาจากแวดวงนี้เลย
คือ/ ปัจจุบันเป็น Acting Coach อาชีพ ที่ไม่ได้ ‘ฝัน’ แต่ ‘รัก’ ที่จะทำ
Q: เล่าถึงอาชีพที่ทำตอนนี้
A: ปัจจุบัน พี่ปรางเป็น Acting coach ค่ะ เป็นครูสอนการแสดง แล้วก็พาร์ทนึงเป็นผู้ออกแบบ workshop การแสดง สำหรับบุคคลทั่วไป
สำหรับงานแอคติ้งโค้ชอ่ะ ก็คือ เรามีหน้าที่ที่จะสอนการแสดงให้กับนักแสดง แล้วก็ ช่วยเขาทำการบ้านเกี่ยวกับการตีความบทบาทต่างๆ เพื่อให้เขาเข้าถึงตัวละคร
ที่เค้าจะเล่น การทำงานของมันก็จะทำตามโจทย์ที่ผู้กำกับ ลูกค้า หรือว่าโปรดิวเซอร์ต้องการ ในขณะเดียวกัน เราก็จะต้องเหมือนดูตัวนักแสดงด้วยว่า
มีศักยภาพที่จะไปถึงโจทย์นั้นได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนพาร์ทการออกแบบ workshop การแสดงสำหรับบุคคลทั่วไปอ่ะค่ะ อันนี้จะเรียกว่าการละครประยุกต์
เอากระบวนการละครบางอย่างเนี่ยมาปรับ ประยุกต์ให้เหมาะกับคนทั่วๆไป ให้เค้านำไปพัฒนาศักยภาพบางอย่างของตัวเอง
ทั้งองค์กร หรือว่า Private ก็ได้ แล้วแต่
Q: จุดที่ทำให้ชอบอาชีพครูสอนการแสดง
A: สิ่งที่ชอบมากๆ และรู้สึกว่าหลงใหลในมันอ่ะนะก็คือ เป็นการทำงานเกี่ยวกับคนอ่ะ มันทำให้เห้นคนในมุมมองที่หลากหลาย บางทีเจอนักแสดงคนนี้ในทีวีแล้วเราก็
จินตนาการไปว่า เขาน่าจะเป็นแบบนั้น เขาน่าจะแรงๆเนอะ แต่พอเวลาเรามา workshop ด้วยกัน มาเจอกัน เขามีอีกมุมนึงที่เราไม่เคยเห็น
เขามีเรื่องราวที่แบบ เอ้อยแบบ เค้าเป้นอย่างนี้เหรอวะ เค้าผ่านสิ่งนี้เกรอ มันน่าตื่นเต้นมากอ่ะ แล้วสำหรับพี่ ทุกๆครั้ง ที่เจอนักแสดงใหม่ๆ
หรือแม้แต่คนเดิมในช่วงเวลาที่เปลี่ยนไปอ่ะ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ซึ่งอันนี้มันทำให้รอคอยที่จะได้ workshop กับคนใหม่ๆอยู่เสมอ
อันนี้เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่า ยังไม่เบื่อกับงานนี้แล้วก็อยากจะตื่นขึ้นมาทำมันทุกวัน
Q: ค้นหาตัวเองเจอได้ยังไง?
A: เราให้เวลาตัวเอง 1 ปี ในการที่จะแบบหาความชอบของตัวเอง ในปีแรกเราสมัครทั้งงานราชการ งานบริษัท ทำออแกไนซ์ ทำงานกองถ่าย ลองทำทุกอย่าง เขียนบท
แบบสอนการแสดงอะไรอย่างนี้ เพื่อที่จะถามตัวเองว่าสุดท้าย เราชอบอะไร แล้วเราก็เริ่มรู้สึกว่าทุกครั้งที่มีงานเกี่ยวกับด้านการแสดงอ่ะ เรารอคอยที่จะให้งานนั้นมันมาถึง
Q: ฝากถึงคนที่กำลังค้นหาทางที่ ‘ใช่’
A: ถ้าชอบอะไรก็มุ่งไปทางนั้น ตรงสาย ไม่ตรงสายอ่ะ มันเป็นอีกเรื่องนึง การไม่ตรงสาย มันเหนื่อยตรงที่ต้องต่อสู้มากกว่านิดนึง
ดังนั้น มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยากนิดนึงที่เราจะผ่านไปสู่จุดนั้นได้ แต่ว่า มันก็ไม่ได้ยากเกินไป ถ้าเรารักมัน
Q: สุดท้ายนี้ ขายของหน่อย
A: เพจนะคะ ชื่อว่า Self Factory นะคะ ไปไลค์กันได้ เพจนี้เป็นเพจที่เราจะรวบรวมผลงานไว้ว่า เราสอนนักแสดงคนไหนบ้าง เรา traning อะไรบ้าง
แต่ว่าก็มีอะไรก็สามารถสอบถามมาได้เกี่ยวกับเรื่อง การแสดง หรือว่าการสื่อสาร ยินดีมาก เราตอบเองด้วย ดังนั้นไม่ต้องเกรงใจ ถามมาได้เลย
น้องๆที่แบบอยากจะเรียนอะไรดีวะ มันคืออะไร ก็ถามมาได้ หรือคนที่จบไปแล้วแล้วสนใจทางด้านนี้ อยากรู้ว่าการแสดงคืออะไร ก็ถาม คุยกันได้
หรือว่าลองตามอ่านพวก Tips ที่อยุ่ในเพจก็ได้ค่ะ บางทีเราก็จะเขียน สรุปกระบวนการคร่าวๆในการทำ workshop แต่ละครั้งไว้ให้ แต่ว่าก็ไม่ต้องมาขอให้ร้องไห้ให้ดูนะ
ทำไม่ได้ (หัวเราะ) …ให้โกรธให้ดูก็ทำไม่ได้จริงๆ
อ่านเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟฝัน ของคนเก่งท่านอื่นๆ
ซอล-อณวิทย์ Go!Graph กับเส้นทางกว่าจะเป็น Travel Content Creator
จากนางแบบสู่ Performance Artist ผู้เขียนโค้ดได้
เมื่อเดินตามฝันสู่การเป็น นักแสดงละครเวทีไกลถึง นิวยอร์ก
ค้นหาตัวเองใน ข้อดีของการเป็ด เก่งหลายอย่าง ออกตัวช้า แต่ถึงเป้าหมายเหมือนกัน