จริงๆ ศาสตร์ด้านนี้มันมีมาตั้งแต่โบราณแล้วค่ะ แต่เป็นการประยุกต์ อย่างมือถือมีนเพิ่งมีมาเมื่อสิบกว่าปีมานี้ใช่มั้ยคะ แต่ว่าโหราศาสตร์มันมามาตั้งหลายร้อยปีแล้ว ตั้งแต่ศาสนาพุทธ พระพทุธเจ้าประสูติขึ้นมาก็มีแล้ว มีพราหมณ์มาทำนาย ว่าท่านบวชจะเป็นอย่างไร ถ้าท่านเป็นกษัตริย์จะเป็นอย่างไร

จุดเริ่มต้นคือพี่อยู่ที่บ้าน ตอนนั้นนะ ที่บ้านขายของ แล้วมีหนังสือเล่มนึง เป็นเกี่ยวกับการดูดวง ก็เปิดดูดวง แล้วก็ขายของไปด้วย ปรากฎว่ามันแม่นแล้วก็มีคนให้ความสนใจ บวกกับคุณแม่ของพี่ ไปหาหมอไสยศาสตร์ ในตอนนั้น ตอนเด็กๆ อ่ะค่ะ เขานั่งพึมพำๆ แล้วเขาก็ชี้ขึ้นมาว่า “มันอยู่ตรงนั้น” อะไรอย่างเนี่ย พี่ก็เลย เฮ้ย ทำไมมันเป็นผู้วิเศษขนาดนั้น พี่ก็เลยสนใจ แต่เราไม่ได้มองว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องทำ เพราะที่บ้านเรามีอาชีพอยู่แล้ว แต่ที่มาทำเนี่ย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า พี่เห็นบางอย่างกับมัน ก็คือมันเป็นงานที่มีคุณค่า คุณค่าในที่นี้คือพี่ไม่ได้มาดูดวงแล้วก็จบไป เป็นการเปลี่ยน เปลี่ยนบางอย่าง อย่างเช่นเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนลายเซ็น หรือว่าการจัดบ้าน เวลาที่เขาเข้ามา ผลลัพธ์ก็คือมันดีขึ้น มันดีขึ้นเรื่องของความมั่งคั่ง ชื่อเสียง แล้วก็ความรัก มันทำให้พี่สนใจในอาชีพนี้

จริงๆ มันเริ่มได้ทุกศาสตร์เลยอ่ะ เพราะว่ามันเปลี่ยนแล้วมันเห็นผลทุกศาสตร์ อย่างเบอร์โทรเนี่ยคุณตัดเลขศูนย์ออกไป ตื่นมารู้สึกสมองโล่งเลย รู้สึกสดใสขึ้นเลยอ่ะ มันเห็นผล อย่างลายเซ็นอะคะ พี่ให้ลายเซ็นที่ถูกต้องไป เซ็นแค่หนึ่งอาทิตย์ก็เห็นผลเหมือนกัน หลายคนบอกว่าได้เงินเพิ่มขึ้น หรืออยู่ๆ แฟนดีขึ้น ส่วนเรื่องของบ้านพอจัดเสร็จปุ๊บก็เปลี่ยนไปเลย มันก็เลยขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกศาสตร์ไหนมากกว่า เพราะว่าสามศาสตร์เนี่ย เป็นศาสตร์ที่พี่ถนัด ต้องมาดูเนาะว่าเราชอบแบบไหนยังไง

มันแก้ได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็น เราอาจเคยได้ยินสามประโยคนี้นะ หนึ่ง เก่งบวกเฮง สอง ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน สาม แข่งอะไรแข่งได้ แข่งวาสนาบารมีแข่งไม่ได้ สามข้อเนี่ยความหมายมันไม่เหมือนกันเลยนะ มันตรงข้ามกัน แต่ไม่เคยมีใครว่าแย้งว่ามันผิด มันอยู่ที่ตัวเราด้วย อย่างคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนที่มาแก้ ดีขึ้นทั้งหมด เพราะเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย พัฒนาตัวเองด้วย เหมือนดินที่มีปุ๋ยมีน้ำแล้ว พอเมล็ดมาตกมันก็งอก แต่ถ้าคนที่ไม่พัฒนาตัวเองเลย เมล็ดตกลงไปก็แห้งตามดินนั้นไปเลย รอลม รอฝน รอฟ้ามาเปลี่ยน จริงๆ แล้วเปลี่ยนได้ แต่แค่มันไม่ร้อยเปอร์เซ็น

แต่ละคนเขามองว่าเงินหนาไม่เหมือนกันนะ สมมติว่าเราเปลียนตรงนี้ราคาสูงสำหรับเรา แต่ผลลัพธ์มันดีมากๆ ถือว่าราคาไม่สูงนะ แต่ถ้าราคาธรรมดาๆ จ่ายได้ แต่ว่าไม่เห็นผล ถือว่าสูง เพราะว่าต้องทำบ่อยๆ เดี๋ยวไปเจอคนนี้ก็เปลี่ยนอีกล่ะ กลายเป็นว่าราคาสูง

ที่พี่ถนัดที่สุดจะมี สามอย่าง คือเบอร์ ลายเซ็น แล้วก็บ้าน แต่ถ้าแนะนำให้ง่ายๆ เลยก็คือเบอร์โทรกับลายเซ็น จะง่าย อย่างเบอร์โทรเปลี่ยนปุีบก็เปลี่ยนล่ะ แค่เราส่งข้อความไปว่าเราเปลี่ยน ส่วนลายเซ็น ลายเซ็นที่พี่ให้ มันเปลี่ยนชีวิตได้จริงตรงที่ว่า ไม่ต้องไปเปลี่ยนที่ธนาคาร แค่เขียนสิบครั้งทุกวัน สองอาทิตย์ก็เปลี่ยนแล้ว ง่ายมาก

ก็แนะนำสองอย่าง คือเบอร์กับลายเซ็น มันเปลี่ยนได้ง่ายที่สุด ส่วนบ้าน จริงๆ ถ้าอยู่คนเดียวมันก็จะเปลี่ยนได้ง่าย แต่ถ้าสมมติว่าอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ หรืออยู่กันหลายคน โอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงมันก็จะต้องปรึกษาเยอะ มันก็จะยากหน่อย

จริงๆ ในอินเตอร์เน็ตมันเป็นจุดเริ่มต้น ที่คนที่ไม่รู้เรื่องเลยเข้าไปดู ก็ยังถือว่าโอเค เพราะว่าเราไม่รู้ ในอินเตอร์เน็ตเขาจะวางแบบเป็น mass product เหมือนคอนโดที่เป็นแมสโปรดัก ที่ห้องน้ำกับบันไดอยู่ข้างหน้า ก็จะอยู่ตรงเนี่ย สลับซ้ายสลับขวา ถ้าในอินเตอร์เน็ต คนที่ทำก็คือ คนที่ความรู้ ซึ่งพี่ก็เคยทำ พอไปทำปุ๊กปรากฎว่ามันได้แค่แมสโปรดัก มันไม่ได้เฉพาะบุคคล มันแม่น เพียงแต่ว่ามันหาเฉพาะบุคคลไม่ได้ อะ เวลาเราไปดู น้อยมาเลยนะที่จะไม่แม่น เวลาไปกด มันก็แม่นกับเรา แต่เวลาเราจะเลือกเลข มันไม่ได้เลขที่เป็นเราจริงๆ

ถ้าห้องน้ำอยู่ข้างหน้าทางด้านขวา วิธีแก้ก็คือให้สะอาด กับสองไม่ให้ชื้น ถ้ามีความชื้นอยู่เราก็ใส่เกลือลงไปในแก้วน้ำอ่ะค่ะ เป็นแก้วไวน์ ใส่เกลือประมาณ ⅓ ใส่น้ำแค่นิดเดียว เพื่อให้เกลือมันดูดซับความชื้นตรงนั้น เพราะมันเป็นตำแหน่งของการเงินตรงนั้นน่ะค่ะ

ห้องน้ำต้องอยู่ทางซ้าย ห้องน้ำอยู่ซ้ายผู้ชายจะอุปถัมภ์เราค่ะ (แล้วถ้าห้องน้ำเราอยู่ด้านขวามันมีวิธีแก้เคล็ดมั้ยคะ ไม่อยากเลี้ยงผู้ชาย) ทางขวา ด้านหน้าหรือด้านหลังค่ะ (หลังค่ะ) ด้านหลังก็ยังดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นต้องเรารองเท้าไปวางแทนห้องน้ำที่อยู่ด้านซ้าย รองเท้ากับสิ่งสกปรก หรือว่าถังขยะไปไว้ตรงนั้นแทน   

ต้องดูว่างมงาย คือเชื่อโดยไม่มีเหตุผล พี่ก็เป็นคนหนึ่งก่อนหน้าที่จะมาทำงานตรงนี้เราก็มีความเชื่อ แต่เราไม่ได้งมงาย เรามีการพิสูจน์ ที่เป็นวิชาการแล้วก็เป็นหลักสูตรมีการเปิดสอนจริงๆ แล้วก็มีการเรียนจริงๆ แต่คนที่งมงาย น่าจะเป็นลักษณะที่ว่าดวงกำหนดแบบไหน ฉันจะไม่เปลี่ยนเลย แล้วก็ให้ลม ให้ฟ้า ให้ฝนพาฉันไป แบบนั้นน่ะค่ะ น่าจะเรียกว่างมงายมากกว่า


ถ้าเราคิดว่าเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย พี่มองว่ามันคนละเรื่องกับที่บอกว่า เชื่อโดยไม่มีเหตุผลหน่ะ ความเชื่อมันต้องมีเหตุผลบางอย่างมารองรับเหมือนกัน แล้วต้องมีการพิสูจน์ แต่วิชานี้มันมีการพิสูจน์ได้จริง แล้วมีการอธิบายออกมาได้จริง ไม่ใช่บอกว่ามันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร ไม่มีคำว่าเพราะเลย มันเป็นอย่างนี้แหละ แล้วมันก็ไม่มีเหตุผล แบบนั้น

ถ้าง่ายๆ พี่จะเปลี่ยนเบอร์ ให้เป็นเบอร์ที่มีเสน่ห์ ถ้าผู้หญิงที่ใช้เบอร์ลักษณะแมนๆ อย่างเช่นเลข 7 เยอะๆ ก็จะไม่ค่อยมีเสน่ห์ (แล้วเลขที่มีเสน่ห์คือเลขอะไรคะ) ได้แก่ 36 กับ 32 เป็นเลขเสน่ห์ ส่วนใหญ่ก็จะได้แต่งงาน แต่เราต้องเรียงลำดับให้ดี ต้องมีคู่ผสมที่ดีด้วย 

ส่วนลายเซ็นก็จะให้เซ็นให้มีนามสกุล เพราะว่าลายเซ็นถ้าไม่มีนามสกุลเนี่ย หมายถึงความรักไม่อบอุ่น ดีแต่อาจจะไม่ค่อยใส่ใจกันอ่ะค่ะ คนที่เซ็นลายเซ็นแล้วไม่มีนามสกุลหมายถึงครอบครัวไม่อบอุ่นหรือไม่ค่อยสนใจแฟน เป็นได้สองกรณีค่ะ เราไม่สนใจแฟนหรือแฟนไม่สนใจเรา เพราะว่าครอบครัวก็คือนามสกุล ครอบครัวคือเงินด้วย คนที่ไม่เซ็นนามสกุลก็มีแนวโน้มว่าทำงานได้มากกว่าเงิน

พี่ว่ามันไม่ได้ช่วยเรื่องเงิน แต่ว่าช่วยเรื่องเสน่ห์ แต่เสน่ห์มันเป็นที่มาของเงินได้เหมือนกัน เพราะคนช่วยใช่มั้ย พี่เคยลองลักษณะที่ว่า ถ้าเรารู้จักวิชาทักษา คนเกิดวันอะไรจะมีกาลกิณี เกิดวันอะไรอ่ะคะ (เกิดวันพฤหัสค่ะ) พฤหัสสีดำไม่ค่อยดี เราก็สังเกตได้เลยว่าเราใส่สีดำ เราจะรู้สึกมันไม่สดใสอ่ะ คนมาจีบก็อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะว่าสีดำเป็นกาลกิณีของวันพฤหัส  วันพฤหัสใส่เสื้อสีเขียวได้นะคะ สีเขียวกับสีส้ม เหลืองได้ค่ะ