TOP
h

thewmtd

Gap Year ข้ออ้างคนขี้เกียจ หรือหนทางค้นพบตัวตน

ธรรมเนียมของคนไทย จบมัธยม ก็ควรไปต่อ ปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยดีๆ รีบเรียนให้จบ เก็บของออกจากหอ แล้วออกมาหางานดีๆ ทำ นี่คือค่านิยมที่คนหลายคนคุ้นเคย

การที่เด็กที่เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยม หรือเพิ่งจบมหาวิทยาลัย เลือกที่จะไปเรียนทำอาหาร ฝึกงาน ออกไปท่องเที่ยว ทำอาสาสมัคร หรือ จะอยู่บ้านเฉยๆ แล้วทำอะไรตามที่ใจอยาก จึงดูเสียเวลาเปล่าในสายตาของใครหลายๆ คน 

แต่ในประเทศโลกตะวันตก อย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ นิวซีแลนด์ และอีกหลายๆ ประเทศ กลับมองว่าเป็นเรื่องที่ปกติมาก กับการใช้เวลาหนึ่งปีที่เรียกว่าช่วง Gap Year พัฒนาตัวเอง หาความรู้ ค้นหาตัวเอง หรือแม้แต่ พักผ่อน เพื่อค้นหาทั้งสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง และค้นพบเส้นทางที่แท้จริงที่อยากเดิน

Gap Year คืออะไร

คือ การใช้ช่วงเวลาประมาณ 1 ปี ระหว่างเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาและขึ้นมหาวิทยาลัย หรือหลังจบมหาวิทยาลัยและก่อนทำงาน ในการพัฒนาตัวเอง ทำอะไรที่อยากทำ โดยไม่เกี่ยวข้องกับ การเรียน หรือ หน้าที่การงาน

จากงานวิจัย Independent Study of 280 Gap Year Student พบว่า 2 สาเหตุที่นักเรียน-นักศึกษา เลือกที่จะใช้เวลาช่วง Gap Year เพราะว่า ความเหนื่อยล้าจากแรงกดดันในการแข่งขันในระบบการศึกษา และ อยากค้นหาตัวตนของตัวเองให้มากกว่านี้

ประโยชน์จากการใช้ Gap Year

จากงานวิจัย Independent Study of 280 Gap Year Studen นักศึกษาที่เลือกจะใช้ Gap Year อย่างจริงจัง มีความพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ พวกเขารู้จักวิธีเข้าหาผู้อื่นมากขึ้น และสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาได้เข้าใจสิ่งที่สำคัญกับตัวเอง เข้าใจเกี่ยวกับผู้คน วัฒนธรรมอื่นๆ และการใช้ชีวิต แล้วนำความรู้และประสบการณ์เหล่านี้ไปใช้ในการทำงานหรือการเรียนได้จริง

เวลา 1 ปี อาจจะฟังดูเหมือนเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน แต่ถ้าให้นับจริงๆ ก็ประมาณ 52 สัปดาห์เท่านั้นเอง การที่เรายอมลงทุนช่วงเวลาเพียงแค่ 1 ปี เพื่อพักให้หายจากความเหนื่อยล้า อาจจะทำให้เรามีเวลาเติบโตเป็นคนที่เก่งขึ้น เข้าใจตัวเอง ผู้อื่น และความเป็นไปของโลกมากขึ้น

ทำอะไรดีล่ะ?

ในช่วงเวลา 1 ปีนี้ เป็นช่วงเวลาที่คุณควรจะได้ใช้ทำอะไรตามที่ใจของคุณต้องการ ซึ่งแต่ละคนก็มีเป้าหมายที่ต่างกันไป ตัวอย่างกิจกรรมที่นิยมทำในช่วง Gap Year  ก็อย่างเช่น การเตรียมตัวไปเรียนต่อ หาคอร์สเรียนสั้นๆ เรียนทำอาหาร จัดดอกไม้ หรือ เรียนภาษา นอกจากได้ประสบการณ์แล้ว ยังได้ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้อีกด้วย

กิจกรรมอาสาสมัคร ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของใครหลายคน ตั้งแต่สิ่งเล็กๆ อย่างเก็บขยะในสวน ตลอดไปจนถึงงานช่วยเหลือสังคม นอกจากจะได้ทำประโยชน์ต่อสังคมแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดี ในการพบเจอผู้คนใหม่ๆ และเห็นถึงสภาพของสังคมในมุมที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน

การไปเที่ยว ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ออกไปเผชิญโลกกว้าง นอกจากจะได้ไปเห็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยแล้ว ยังเป็นโอกาสได้แลกเปลี่ยนทั้งความคิด  วัฒนธรรม และอาจจะได้มุมมองใหม่ๆในการใช้ชีวิตกลับมาจากการเดินทางที่มีความหมายก็ได้

พักผ่อนอยู่ที่บ้านเฉยๆ ก็เป็นสิ่งที่หลายคนทำในช่วง Gap year การอยู่บ้านเฉยๆ อาจดูเสียเวลาเปล่า แต่ถ้าหากเราได้เรียนรู้บางอย่าง หรือ เพลิดเพลินไปกับมัน มันก็ไม่ใช่การเสียเวลาแต่อย่างใด การพักผ่อนอยู่บ้าน เป็นเหมือนกับการอยู่กับตัวเอง ที่อาจทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น บางทีอาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการค่อยๆ จัดระเบียบชีวิต เพื่อหาเส้นทางที่จะเดินต่อไปในอนาคต 

หลายคนอาจจะมั่นใจในทางเดินของตัวเองมานานแล้ว แต่ยังมีหลายคนที่ยังไม่มีแผน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย เพราะทุกคนไม่เหมือนกัน พบเจอเรื่องราวมาคนละแบบ บางคนอาจใช้เวลาน้อย ขณะที่บางคนอาจต้องใช้เวลามากกว่า การที่เราจะใช้เวลา 1 ปีนี้ อาจจะเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้เราได้รู้จักกับตัวเองมากขึ้น หรือค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบมากขึ้น ก่อนที่จะตัดสินใจเดินต่อในทางที่ฝันไว้

สาวช่างฝันในวัยทเว็นตี้ซัมติง เรียนด้านเขียนอ่าน บันทึกเรื่องราวด้วยการสังเกตและบทสนทนา ชอบงานคราฟท์ ปักผ้าได้ พยายามหัดถักนิ้ตติ้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save