ช่วงนี้หลายคนเทิร์นตัวเองเป็นแม่ครัว คงจะรู้ว่าในแวดวงคนทำอาหาร เกลือ ไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว แต่ยังมีเกลือแกง เกลือทะเล หรือเกลือที่เป็นเหมือนราชินิอย่าง เกลือหิมาลายัน หรือ เกลือชมพู ที่สาวๆ น่าจะรู้จักกันผ่านสกินแคร์คอลเลคชั่นใหม่ช่วงนี้ 

แล้วเกลือชมพูมีดียังไง ควรค่าจะเสียเงินตามคำโฆษณารึเปล่า

เกลือชมพู คืออะไร?

ลักษณะของเกลือชมพู เรียกว่าเป็น เกลือหิน อุดมด้วยแร่ธาตุกว่าหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม, แมกนีเซียม และแคลเซียม ซึ่งทำให้เกิดสีชมพู และมีรสชาติแตกต่างจากเกลือทั่วไป เกลือชมพู พบได้ในบางพื้นที่เท่านั้น ซึ่งโดยมากจะอยู่ในแถบตีนเขาหิมาลายัน ในเขตรัฐปัญจาบ ประเทศปากีสถาน ด้วยความแรร์นี่เอง ที่ทำให้เกลือชมพูมีราคาสูงกว่าเกลือทั่วไป 

เกลือชมพูดีกว่าอย่างไร?

• อุดมด้วยแร่ธาตุ : ว่ากันว่า 98% คือโซเดียม คลอไรน์ ส่วนอีก 2% นั้นเป็นแร่ธาตุถึง 84 ชนิด
• ปลอดสาร : เกลือทั่วไปต้องใส่สารที่ทำให้เกลือไม่ชื้นจนจับตัวเป็นก้อน แต่เกลือชมพูไม่ต้องใส่ จึงทำให้ปลอดสาร และเป็นธรรมชาติมากกว่า

เข้าสู่งวงการบิวตี้ได้อย่างไร?

มนุษย์ใช้เกลือช่วยในเรื่องความงามมานานแล้ว ทั้งสูตรภูมิปัญญาชาวบ้านหรือเครื่องสำอางค์แบรนด์ดัง ซึ่งสรรหาวัตถุดิบแปลกๆ มาเป็นสินค้าใหม่อยู่เสมอ ไล่ตั้งแต่สารสกัดจากจะเลลึก ไปจนถึงกระบองเพชรจากทะเลทรายซาฮารา แล้วจะพลาด เกลือชมพู ที่ชื่อก็สื่อถึงความงามไปได้อย่างไร สกินแคร์ หรือเครื่องสำอางค์ต่างๆ ที่มีเกลือชมพูเป็นส่วนผสม จึงผุดมาให้เราเห็นอยู่มากมายตามท้องตลาด 

และยิ่งกว่านั้น สายบิวตี้ออแกนิคยังเชื่อด้วยว่า เกลือชมพู มีพลังงานในการรักษา! ถูกใช้ในแวดวงสปา เพื่อการผ่อนคลาย มีโคมไฟจากเกลือชมพูวางขาย ที่ว่ากันว่าจุดแล้วจะช่วยในเรื่องการรักษาสมดุลย์ร่างกาย และเราจะพบเชิงเทียน และแก้วจากเกลือชมพู บนเว็บขายของตกแต่งบ้านได้อีก

เกลือชมพู มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงเหรอ?

จริงอยู่ที่เกลือชมพู มีแร่ธาตุกว่า 84 ชนิด ทว่าก็มีเพียง 2% เท่านั้น หมายความว่าแร่ธาตุเหล่านั้นมีปริมาณน้อยมากๆ จนไม่ส่งผลใดต่อร่างกาย (ถ้าเคลมว่าบริโภคเข้าไปเพื่อรับแร่ธาตุเหล่านั้นน่ะนะ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนรุ่นใหม่นิยมเกลือชมพู เพราะนางสวย มีไว้ในครัว ก็สวยเก๋ เป็นของตกแต่งบ้านก็ดูชิค ดูออแกนิคนั่นเอง