เคยมั้ย? คุยเรื่องจริงจังกับแฟน แล้วนางขำ เปลี่ยนเรื่อง หรือเล่นตลกให้ดูเฉ๊ยยย! จนพาลน้อยอกน้อยใจ คิดว่าเขาไม่ให้ความสำคัญ กับเรื่องที่เราต้องการจะสื่อสารเลย

เธอคะ ก่อนจะกรีดร้อง เรามาลองทำความเข้าใจ ในมุมของเขาดูกันดีกว่า  ก่อนอื่น เราขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ  “Satir Categories” หลักจำแนกลักษณะ การรับมือกับปัญหาของมนุษย์ เวลาเจอปัญหา หรือ ทะเลาะ กัน โดย Virginia Satir  นักบำบัดชาวอเมริกัน ซึ่งแยกออกเป็น 5 ลักษณะ ได้แก่ 

ทะเลาะ แล้วโทษคนอื่น (Blaming)

นายคนนี้จะโทษคนอื่นก่อนเลย “เธอนั่นแหละไม่…ฉันก็เลย…” คน ที่มีลักษณะการรับมือกับปัญหาแบบนี้ มักจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ผ่านเรื่องราวที่ให้รู้สึกเชื่อใจใคร หรืออะไรยาก

ข้อเสีย : ภายนอกจะดูเป็นคนเข้มงวด เคร่งเครียด จริงจัง บางครั้งอารมณ์รุนแรง
ข้อดี : มีความเป็นผู้นำ มุ่งมั่น

ยอมตาม (Placating)

คนนี้จะออกแนวมาโซคิส (masochism) หน่อยๆ ยอมให้ทุกคน ทุกอย่าง เพียงเพราะว่า ไม่อยากมีปัญหา และอยากทำให้คนอื่นพอใจ จะว่าดีก็ไม่ใช่ เพราะยอมๆ ไป ปัญหาก็ไม่ได้ถูกแก้ไข สะสมเป็นความเครียด และสุดท้าย อาจทำให้ตัวเองเสียผลประโยชน์  

ข้อเสีย : ยอมให้คนอื่นควบคุมความต้องการของตัวเอง ไม่ให้คุณค่าตัวเองมากพอ สุดท้ายอารมณ์เก็บสะสม กลายเป็นความเครียด ซึมเศร้าได้
ข้อดี : มักจะเป็นคนมีน้ำใจ เอื้อเฟือ คิดเพื่อผู้อื่น

เจ้าเหตุผล (Super-reasonable)

สงสัยล่ะซิ ว่าการอ้างหลักการ มันไม่ดียังไง…คืออะไรที่มันมากไป ก็ไม่ดีหมดแหละ ไม่เว้นแม้แต่การอ้างหลักการ ยิ่งถ้าเป็นการโต้เถียงกัน ระหว่างคู่รัก อ้างหลักการเป๊ะๆ จะทำให้คุณดูเหมือน ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา เย็นชา และมองข้ามความต้องการ ของคนรักไปง่ายๆ 

ข้อเสีย : เถรตรงเกินไป มองไม่เห็นอารมณ์ผู้อื่น บางครั้งอาจดูเหมือนเป็นคนพูด ขวานผ่าซาก ทำให้ไม่ถูกใจคนฟัง หรือ บางครั้งทำร้ายจิตใจคนฟัง อาจมีปัญหากับการเข้าสังคม ไม่รู้จักการประนีประนอม
ข้อดี : ฉลาด มีตรรกะและเหตุผล

ทะเลาะ แล้วเฉไฉ (Irrelevant)

ส่วนคนนี้ ก็คือแฟนของเรา ที่ชอบขำ เวลาเราคุยเรื่องจริงจัง นั่นแหละค่ะ รายนี้จะชอบบ่ายเบี่ยง หลบตา เปลี่ยนเรื่องเก่ง มีท่าทางทีเล่นทีจริง เพื่อให้หลุดพ้นจากปัญหา เพราะรับมือกับความเครียดไม่ได้

การรับมือกับปัญหาด้วยการเฉไฉ บ่ายเบี่ยง ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์มากกว่าที่คิด คนที่บ่ายเบี่ยง อาจจะเอาตัวรอดหนีจากปัญหาได้ แต่คุณทิ้งความไม่สบายใจ ความน้อยใจไว้ให้อีกฝ่าย และเป็นปัญหาได้ในอนาคต

ข้อเสีย : เป็นคน ไม่เผชิญหน้ากับปัญหา เลือกจะหนีเวลาพูดเรื่องจริงจัง ที่ตนเองไม่สบายใจ ทำให้มีภาพลักษณ์ เป็นคนเหลาะแหละ ไม่เอาไหน ไม่น่าเชื่อถือ
ข้อดี : มักจะถูกมองว่า เป็นคนร่าเริง ช่างเอาใจ เอนเตอร์เทนเก่ง สร้างเสียงหัวเราะให้กลุ่มเพื่อน

สอดคล้องกลมกลืน (Congruence)

คนสุดท้าย คนนี้จะเป็นเหมือนบัวพ้นน้ำ หรือหลุดแล้วจากการหนีปัญหา, ใช้แต่เหตุผลจนสุดโต่ง หรือการโทษแต่คนอื่น เป็นลักษณะการรับมือกับปัญหาที่มองทุกอย่าง ตามความเป็นจริง และรับมืออย่างมีสติ เป็นกลาง

คนที่มีลักษณะการรับมือกับปัญหาทั้ง 4 แบบข้างต้น สามารถพัฒนาความคิด และอารมณ์ ให้มีการรับมือกับปัญหาอย่างสอดคล้องกลมกลืน (Congruence) ได้หมด หากยอมรับ หรือมองเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง 

อ่านมาถึงตรงนี้ น่าจะได้คำตอบแล้วว่า ที่แฟนชอบขำเวลาคุยเรื่องจริงจัง เป็นวิธีการรับมือกับปัญหา แบบหนึ่งของเขา ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย อาจจะมาจากการไม่ได้ตั้งตัว หรือรู้สึกยังไม่พร้อม ที่จะคุยเรื่องนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ใส่ใจกับปัญหาที่เราพูดถึงเพียงอย่างเดียว

ส่วนคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย ที่ใช้การบ่ายเบี่ยงรับมือกับปัญหาอยู่ ก็คงจะรู้แล้วใช่มั้ยว่า ทำให้คนรักของเรารู้สึกยังไง ดังนั้นควรหันหน้ามาคุยกันดีๆ การหนีปัญหาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรนะจ๊ะ ถ้าเริ่มไม่ถูก ลองเทคนิคคุยกับแฟนยังไงไม่ให้รักร้าว ที่ผู้หญิงสมัยนี้เคยเล่าให้ฟังไปแล้วด้านล่างนี้เลยยยย 

กดอ่านค่ะ! 

I – Massage คุย กับ แฟน ยัง ไง ไม่ ให้ รัก พัง
ผู้ ชาย ก็ งอน เป็น
เถียง ให้ เข้า ใจ ไม่ ใช่ เอา ชนะ