มาทำความเข้าใจ แฟนฟิค กับ 6 เหตุผล ทำไมชาว “ติ่ง” ถึงชอบอ่านกัน

เคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะว่าทำไม แฟนฟิคชั่น จึงเป็นไอเท็มคู่ใจในการติ่ง? แต่จริงๆ แล้ว แฟนฟิค ไม่ได้มีแค่ในกลุ่มแฟนคลับศิลปินเท่านั้นนะคะ แต่ในหมู่แฟนนิยาย และภาพยนตร์ก็มี แฟนฟิคชั่น ด้วยเหมือนกัน

ว่าแต่แฟนฟิคชั่นคืออะไร ทำไมใครๆ ก็อ่านกันล่ะ? เรามาทำความรู้จัก แฟนฟิคชั่น และทำความเข้าใจคนอ่านกันดีกว่า

จุดเริ่มต้น

“แฟนฟิคชั่น” มาจากคำว่า Fanclub (แฟนคลับ) + Fiction (เรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการ) = เรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของแฟนคลับ นั่นเอง

โดยมักมีจุดเริ่มต้นมาจาก ความชื่นชอบในตัวศิลปิน หรือตัวละครใดๆ แล้วอาจเกิดเป็นการจิ้น หรือการจับคู่บุคคลหรือตัวละครเหล่านั้น (คู่ชิป) หรือว่าจะเป็นความชื่นชอบเนื้อเรื่องนิยายหรือภาพยนตร์ต้นฉบับ และหลงใหลในบรรยากาศของเรื่อง จนเกิดเป็นความต้องการของทั้งผู้อ่านและผู้เขียนที่อยากจะเพิ่มเติมเรื่องราวให้สมบูรณ์แบบในความคิด หรือมุมมอง ความชื่นชอบของตน แฟนฟิคชั่น จึงเกิดขึ้น

อธิบายง่ายๆ ได้ว่า แฟนฟิค คือการเพิ่มเติมเรื่องราว เหตุการณ์ ตัวละคร เพื่อเติมเต็มความในใจ ความสุขส่วนบุคคล และเกิดเป็นการแบ่งปันให้ผู้อ่านคนอื่นๆ ที่คิดเหมือนกัน เพื่อให้ได้รับความสุขจากการเติมเต็มนี้ด้วย

ใน แฟนฟิค แต่ละเรื่องก็จะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ความชื่นชอบ มุมมอง และไอเดีย ของผู้เขียน ซึ่งก็สามารถอธิบายได้ ดังนี้

1. ปรับเปลี่ยนบริบท

ผู้เขียนอาจปรับเปลี่ยนบริบท สภาพแวดล้อม ปูมหลัง ของศิลปิน ตัวละคร หรือเนื้อเรื่องต้นฉบับใดๆ เพื่ออธิบายการกระทำของตัวละครนั้นๆ ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นแบบนี้ หรืออาจเพิ่มเติมฉากหรือเหตุการณ์ที่ขาดหายไป หรือไม่เคยปรากฏอยู่ในเรื่องต้นฉบับ เพื่อสร้างเหตุผลของการกระทำ หรือนิสัยของตัวละครขึ้นมา ตามมุมมองของผู้เขียนผ่าน แฟนฟิค นั่นเอง

จุดประสงค์นี้ ถูกใช้กับตัวศิลปินด้วยเช่นกัน อาจเป็นแฟนฟิคที่มีการปรับเปลี่ยนอาชีพ บทบาท เช่น การกำหนดให้ตัวศิลปินหรือไอดอล เป็นนักธุรกิจ นักเรียน นักศึกษา ในฟิคชั่นเรื่องนั้นๆ รวมไปถึงการใส่ความแฟนตาซีลงไป เพื่อปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม และเงื่อนไขรองรับการกระทำของตัวละคร เช่น โลกเวทมนตร์ หรือ โอเมก้าเวิร์ส ที่อ้างอิงระบบของฝูงหมาป่า ซึ่งทำให้เกิดเงื่อนไขหลักของตัวละครแต่ละครตามแต่บทบาทที่ผู้เขียนจะกำหนด

2. เติมแต่งเส้นเรื่อง

การแต่งเติมเส้นเรื่องมักพบใน แฟนฟิค ที่ต่อยอดมาจากนิยายหรือภาพยนตร์ โดยมักเป็นเพิ่มเติมเหตุการณ์ก่อนหรือหลังเหตุการณ์ในนิยาย หรือภาพยนตร์ เช่น การเพิ่มเหตุการณ์ต่อบทสรุปที่ยังคงค้างคาใจของภาพยนตร์ซักเรื่อง โดยกล่าวถึงชีวิตของตัวละครต่างๆ หลังจากนั้นว่าใช้ชีวิตกันอย่างไร เป็นไปในทิศทางไหน

ยกตัวอย่าง วรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซีที่ครองใจนักอ่านชาวไทยหลายๆ คน เรื่อง หัวขโมยแห่งบารามอส ของผู้เขียนที่ใช้นามแฝงว่า “แรบบิท” ก็ได้แรงบันดาลใจมากจาก วรรณกรรมชื่อดังระดับโลก แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยมีการหยิบยืมบรรยากาศจากเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาใช้ ให้กลิ่นอายความแฟนตาซี แต่มีเนื้อหา และตัวละครที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้น่าติดตาม จนกลายเป็นวรรณกรรมที่น่าประทับใจเรื่องหนึ่งไปเลย

3. นำเสนอบทบาทและมุมมองตัวละครย่อยผ่าน แฟนฟิค

การนำเสนอมุมมองของตัวละครรอง เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่มักจะถูกหยิบมาใช้กับ แฟนฟิคชั่น จากนิยายหรือภาพยนตร์ เพราะหลายครั้งที่นิยายหรือภาพยนตร์มักจะขาดการอธิบายเหตุผลของตัวละครเล็กๆ เหล่านี้ อาจเป็นช่องโหว่ หรือความไม่สมเหตุสมผลที่มีน้ำหนักมากพอ เหล่านักแต่งแฟนฟิคชั่น จึงอาจหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาเติมแต่งให้มีที่มาที่ไปมากขึ้นนั่นเอง

Drago Malfoy  และ Hermione Granger สองตัวละครดัง ที่ใครหลายๆ จับตามองถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จากฉากเล็กๆ ในภาพยนตร์ ที่ เดรโก พยายามเข้ามาทำความรู้จักกับ เฮอร์ไมโอนี แต่กลับพบว่าเธอเป็นเพื่อนกับ แฮร์รี่ ศัตรูตลอดกาลของเขา เขาจึงตัดสินใจไม่สานสัมพันธ์ใดๆ ต่อกับเธอ และเป็นศัตรูไปในที่สุด ซึ่งประเด็นนี้ทำให้แฟนๆ นิยาย และภาพยนตร์ Harry Potter อดเชียร์คู่นี้ไม่ไหว เกิดแรงบันดาลใจเป็นแฟนฟิคชั่นที่ได้คู่นี้มาเป็นตัวเอกของเรื่องในที่สุด ซึ่งก็ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในหมู่แฟนคลับ Harry Potter ด้วยเช่นกัน

4. แฟนฟิค ช่วยเปิดโลกก่อนจะมาเป็นตัวร้ายที่รัก

ตัวร้ายที่รัก ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียหลัก ที่แฟนๆ นิยายหรือภาพยนตร์มักจะหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และในเรื่องต้นฉบับกล่าวถึงตัวร้ายเหล่านี้แบบผิวเผิน จนเราไม่รู้มาที่ไปของนิสัยและการกระทำของตัวละครนั้นๆ เหล่าแฟนๆ จึงแก้ต่างให้ด้วยการเขียนแฟนฟิคชั่นขึ้นมา โดยที่มีตัวร้ายที่รักเหล่านี้เป็นตัวละครหลัก เล่าเรื่องผ่านมุมมองของตัวร้ายในฉบับที่เป็นตัวเอกของเรื่อง มีที่มาที่ไป ปูมหลังที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จนทำให้เรารู้สึกถึงความสมเหตุสม หรือเข้าใจการกระทำของตัวร้ายในเรื่องได้เลย

5. การผสานระหว่างสองเรื่องราวต้นฉบับ

การครอสโอเวอร์ คือ การควบรวมหรือผสมผสานธีมของสองเวอร์ชั่นต้นฉบับ หรือการนำเอาตัวละครจากหลายๆ เรื่องต้นฉบับมาเจอกันในเวอร์ชั่นแฟนฟิคชั่น มักพบในแฟนฟิคชั่นที่ดัดแปลงภาพยนตร์ นิยาย หรือการ์ตูนบางเรื่อง เช่น การนำตัวละครฮีโร่จากฝั่ง Marvel มาพบกับตัวละครฮีโร่จาก DC เพื่อช่วยกันทำภารกิจกู้โลก ก็ถือว่าเป็นการครอสโอเวอร์ (Crossover) ด้วยเหมือนกัน

6. ความรักอีโรติกสุดสยิวที่ต้องขยายความผ่าน แฟนฟิคชั่น

เรื่องรักอีโรติกไม่เข้าใครออกใคร แฟนฟิคชั่นบางเรื่องก็เกิดขึ้นมาเพื่อเพิ่มอรรถรสในเรื่อง “เซ็กส์” ได้เช่นกัน โดยแฟนฟิคชั่นเหล่านี้อาจสร้างตัวละครขึ้นมาจากศิลปิน ไอดอล หรือจะเป็นตัวละครที่ถูกหยิบยืมมาจากนิยาย หรือภาพยนตร์เรื่องซักเรื่อง แล้วนำมาต่อเติมบทบาท เรื่องราวด้านเซ็กส์ หรือความโรแมนติก อีโรติก ที่เข้มข้นมากกว่าต้นฉบับ ซึ่งจุดประสงค์นี้ อาจเป็นเส้นเรื่องรัก หรือแค่บางช่วงบางตอนของแฟนฟิคชั่นเรื่องหนึ่งก็ได้

ตัวอย่างที่ชัดเจนสุดๆ ก็คือ 50 Shades of Gray นิยายรักอีโรติกชื่อดัง มียอดขายถล่มทลาย แถมยังมีภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน ซึ่งผู้เขียน E.L. James ก็ยอมรับว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายรักโรแมนติกที่ผู้หญิงค่อนโลกปลื้มสุดๆ อย่าง Twilight นั่นเอง ซึ่งเธอต่อยอดไอเดีย Sexual Tension ของตัวละคร Edward และ Bella ในแฟนฟิคชั่นของเธอผ่านตัวละครใหม่ Christian และ Anastasia ที่เธอสร้างขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอาย คาแรคเตอร์ที่คล้ายคลึงกับต้นฉบับเอาไว้ และในที่สุด แฟนฟิคชั่นสุดสยิวเรื่องนี้ก็โด่งดังเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก

จุดประสงค์หลักๆ ของการสร้าง แฟนฟิคชั่น ขึ้นมาก็เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ความชื่นชอบ และการต่อยอดจินตนาการ สร้างสรรค์ไอเดียฟิคชั่นขึ้นมา ซึ่งแฟนฟิคชั่นหลายๆ เรื่องก็ทำได้ดีมากจนกลายเป็นวรรณกรรมที่โด่งดังได้เลย และอีกหลายๆ เรื่องก็สร้างความสนุก ความบันเทิงให้กับผู้อ่านที่มีความชอบคล้ายๆ กันได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น แฟนฟิคชั่น ก็เป็นเพียงเรื่องที่แต่งเติมขึ้นจากจินตนาการเท่านั้น ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน ไม่ควรนำคาแรคเตอร์หรือการกระทำต่างๆ จากในแฟนฟิคชั่น ไปปะปนกับเนื้อเรื่องต้นฉบับ หรือบุคคลอ้างอิงที่มีตัวตนในชีวิตจริง เช่น ศิลปิน ไอดอล นะ หรือจะอ่านบทความก่อนหน้าที่พูดถึงเรื่อง ข้อควรระวังในการติ่ง ก็คลิกเลย


ที่มา : https://books.google.co.th/books?id=r2SzDwAAQBAJ&lpg=PP1&pg=PT192#v=onepage&q&f=false