
ทฤษฎีความรัก รักเราเป็นแบบไหน? รู้จัก 8 ไทป์ของความรัก Triangle of Love
รักของเราเป็นแบบไหน ความสัมพันธ์นี้คืออะไร นี่คือความรักจริงไหม? เราจะพาไปหาคำตอบว่าความรักคืออะไรในมุมมองจิตวิทยากัน!!
ความรักคืออะไร

ทฤษฎีความรัก ‘Triangle of Love’ อธิบายไว้ว่านิยามความรักของคนเรานั้นสามารถแบ่งคร่าวๆ ได้ถึง 8 รูปแบบ ซึ่งความรักแต่ละรูปแบบจะมี 3 องค์ประกอบในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป องค์ประกอบนั้นก็คือ
Intimacy ความใกล้ชิด การสร้างสายสัมพันธ์ที่แนบชิด รู้ใจกัน
Passion ความรู้สึกดึงดูดทางเพศ อารมณ์เสน่หา
Commitment การผูกมัด การตกลงปลงใจทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงการมีเป้าหมายร่วมกัน
เมื่อนำทั้ง 3 องค์ประกอบ มา Mix&Match กัน ก็ จะ กลาย เป็น 8 รูปแบบ ของความรัก ดังนี้

ประเด็นที่น่าสนใจ
ไร้รัก (Non-Love)
ความรักแบบแรกที่ ทฤษฎีความรัก ‘Triangle of Love’ แนะนำ ก็คือความไร้รัก (Non-Love) นั่นเองค่ะ ความสัมพันธ์แบบไร้รักนั่นจะไม่มีทั้ง ‘ความใกล้ชิด’ ‘ความเสน่หา’ และ ‘การผูกมัด’ เป็นความรู้สึกกลางๆ เหมือนคนรู้จักทั่วไป
ความชอบ (Liking)
ความชอบ (Liking) เป็นความสัมพันธ์ที่มีเพียง ‘ความใกล้ชิด’ หรือ ‘Intimacy’ คนที่อยู่ในความสัมพันธ์จะรู้สึกถึงความผูกพัน ความรู้ใจ ความเข้าใจ ซึ่งจะส่งผลให้รู้สึกใกล้ชิดกัน แต่ความสัมพันธ์นี่จะไม่มีความรู้สึกหลงใหล ดึงดูด หรือข้อผูกมัด หลายๆ คนจึงเรียกความสัมพันธ์นี้อีกแบบว่า Friendship นั่นเอง
ความรักแบบหลงใหล ( Infatuation Love)
ความรักแบบหลงใหล ( Infatuation Love) คือความรักที่มีเพียงความเสน่หาหรือ Passion หลายคนอาจจะเรียกมันว่ารักแรกพบก็ได้ เพราะความสัมพันธ์นี้จะมีเพียงความรู้สึกหลงใหล แต่ยังไม่มีความรู้สึกใกล้ชิดผูกพัน และไม่มีการวางแผนอนาคตร่วมกัน ความรักแบบนี่ยังมักจะหมดไปได้อย่างรวดเร็วด้วย
รักที่ว่างเปล่า (Empty Love)
รักที่ว่างเปล่า (Empty Love) ฟังดูเป็นความรักที่ใครก็คงไม่อยากพบเจอที่สุด เพราะความสัมพันธ์นี้อยู่กันด้วยข้อผูกมัด หรือ Commitment เท่านั้น ไม่ได้มีความรู้สึกใกล้ชิด ไว้ใจ หรือกระทั่งความรู้สึกเสน่หา ความรักแบบนี้อาจจะหมายถึงความรักของคนที่จดทะเบียนสมรส อยู่ด้วยกันมานานๆ หรือความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นก็ได้

รักโรแมนติก (Romantic Love)
รักโรแมนติก (Romantic Love) คือความรักที่มีทั้ง ‘ความใกล้ชิด’ และ ‘ความเสน่หา’ ซึ่งบางคนมองว่าเป็นรักในอุดมคติเพราะไม่มีข้อผูกมัด แต่ในบางคนก็อาจเรียกมันว่า ‘ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน’ เพราะไม่มีการให้สถานะ การวางแผนร่วมกัน
.
รักแบบเพื่อนคู่ชีวิต (Companionate Love)
รักแบบเพื่อนคู่ชีวิต (Companionate Love) คือความรักที่มี ‘ความใกล้ชิด’ และ ‘ข้อผูกมัด’ ซึ่งความสัมพันธ์นี้จะมีความจริงจังและลึกซึ้งกว่าความชอบ เพราะแม้จะไม่มีความเสน่หากันแบบคู่รักแต่ก็มีข้อผูกมัดบางอย่างให้ต้องอยู่ด้วยกัน ซึ่งบางคนเรียกมันว่าความรักแบบเห็นอกเห็นใจก็ได้ มักจะเป็นความรักที่มักพบในคู่รักที่อยู่ด้วยกันมานานแล้ว และยังเป็นความรักของคนในครอบครัว ของเพื่อนสนิทได้อีกด้วย
.
รักแบบหน้ามืดตามัว (Fatuous love)
รักแบบหน้ามืดตามัว (Fatuous love) คือความรักที่มี ‘ความเสน่หา’ และ ‘ข้อผูกมัด’ ความสัมพันธ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นกับคู่รักที่พบกันไม่นานก็แต่งงานกัน หรือคู่รักที่คบมานานแต่ไม่ได้ใช้เวลาด้วยกัน แต่ก็แต่งงานกันได้ด้วย ซึ่งนักจิตวิทยามองว่าความรักแบบนี้มักจะไม่ค่อยเวิร์ก เพราะคู่รักยังไม่ได้ศึกษากันมากพอ

รักแท้ (Consummate Love)
สุดท้ายคือ รักแท้ (Consummate Love) เป็นความรักที่มีครบทั้ง 3 องค์ประกอบทั้ง ‘ความใกล้ชิด’ ‘ความเสน่หา’ และ ‘ข้อผูกมัด’ ซึ่งความรักแบบนี้ถือว่าเป็นความรักในอุดมคติ เป็นความรักที่หาได้ยากมาก และที่ยากกว่าก็คือการรักษาองค์ประกอบทั้ง 3 ให้คงอยู่ตลอดไป
แล้วความรักของเพื่อนๆ ตรงกับรูปแบบไหนบ้าง มาแชร์กันได้นะคะ
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ จากผู้หญิงสมัยนี้ :
T R I A N G U L A R T H E O R Y O F L O V E ส่วน ประกอบ ของ ความรัก
H E A L T H Y R E L A T I O N S H I P : สำ ร ว จ ค ว า ม สั มพั น ธ์ ที่ ดี ต่ อ ใ จ มี ลั ก ษ ณ ะอ ย่ า ง ไ ร ใช่ เ ร า รึ เป ล่ า ?
I – M E S SA G E S : วิ ธี ถ า ม แ ฟ น ดี ๆ ไ ม่ ใ ห้ รั ก พั ง