TOP
h

thewmtd

world war 2 movie list

สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำไมต้องเข้าใจ?

เราน่าจะรู้กันมาบ้างว่า ‘ สงครามโลกครั้งที่2 ’ คือการต่อสู้กันระหว่าง ‘ฝ่ายสัมพันธมิตร’ ที่นำโดย อังกฤษและสหรัฐอเมริกา กับ ‘ฝ่ายอักษะ’ ซึ่งนำโดย เยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่น โดยสงครามครั้งนั้น ถือว่าเป็นสงครามที่กินพื้นที่กว้างขวาง มีสมรภูมิรบอยู่ทั่วโลก มีทหารกว่า 100 ล้านนาย จากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วม มีการทุ่มงบในการทำสงครามราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ถึง 85 ล้านคนระหว่างการเกิดสงครามครั้งนี้

สงครามโลกครั้งที่2 จึงนับว่าเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่สุด ใช้เงินทุนมากที่สุด และมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ความสูญเสียแบบที่เราคาดการณ์ไม่ถึงนี่เอง ที่ทำให้เราต้องศึกษาและทำความเข้าใจ ‘สงครามโลกครั้งที่2’ ไม่เพียงให้เราได้รู้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่รวมไปถึงผลกระทบต่อผู้คนทั่วไปหลังทำสงคราม พร้อมกับการตั้งคำถามว่าต้องทำอย่างไรที่จะไม่ให้ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายครั้งนี้ซ้ำรอยอีก

วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 4 ภาพยนตร์ที่อิงจากเรื่องจริงของคน 4 ชาติ ที่จะทำให้เราได้เห็นมุมมอง เห็นผลกระทบที่หลากหลายของคนในแต่ละมุมโลก

Grave of the Fireflies (1988)

สงครามโลกครั้งที่ 2

เรื่องจริงของพี่ชายผู้สูญเสียน้องสาวไป ด้วยภาวะขาดอาหารระหว่างสงคราม

ถ้าพูดถึงแอนิเมชั่นที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ดีที่สุด ‘Grave of the Fireflies’ หรือ ‘สุสานหิ่งห้อย’ ต้องเป็นหนึ่งในเรื่องที่หลายๆ คนนึกถึงอย่างแน่นอน

แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ‘สุสานหิ่งห้อย’ นั้นได้ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของ Nosaka Akiyuki ที่ได้สูญเสียพ่อเลี้ยงจากเหตุการณ์โจมตีทางอากาศในปี 1945 และหลังจากนั้นเขายังได้สูญเสียน้องสาวไปจากภาวะขาดสารอาหารในช่วงสงคราม เขาจึงตัดสินใจเขียนนวนิยานเรื่องหนึ่งขึ้นมา เพื่ เล่าความโหดร้ายของสงคราม โดยมีชื่อเดียวกันกับแอนิเมชั่นนั้นคือ ‘สุสานหิ่งห้อย’

Nosaka Akiyuki ได้เขียนอธิบายที่มาของชื่อนี้ไว้ว่า ชีวิตของเด็กๆ ในช่วงสงครามก็เปรียบเสมือนหิ่งห้อย ที่ตายง่าย และเมื่อไรที่หิ่งห้อยตาย แสงสว่างซึ่งเปรียบเสมือนความหวังในการมีชีวิตอยู่กับดับลงไปเช่นกัน

นวนิยายเรื่อง ‘สุสานหิ่งห้อย’ ได้สมมุติเรื่องราวให้เกิดขึ้นในเมืองโกเบ โดยเล่าเรื่องราวของสองพี่น้องที่พลัดหลงกับแม่ของตัวเองไปในระหว่างเดินทางไปยังเซฟเฮ้าส์ ทำให้เขาต้องไปอาศัยอยู่กับป้า แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทนนิสัยป้าไม่ไหว ‘เซตะ’ ผู้เป็นพี่ชายจึงพาน้องสาวหนีออกไปอาศัยในเหมืองเก่าแห่งหนึ่ง จนสุดท้ายเสบืองอาหารก็ค่อยร่อยหรอไป ทำให้น้องสาวเขาขาดสารอาหารและเสียชีวิตไปในที่สุด

ซึ่งฉบับแอนิเมชั่นนั้นทางสตูดิโอจิบลิไม่ได้มีการดัดแปลงเนื้อหาจากฉบับนวนิยายเลย จึงไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็ยกให้ ‘สุสานหิ่งห้อย’ เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ถ่ายทอดความโหดร้ายของสงคราม ได้อย่างลึกซึ้งและสมจริงที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์

Schindler’s List (1993)

สงครามโลกครั้งที่ 2

ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงอันแสนเจ็บปวดของชาวยิวที่ถูกไล่ล่าตามฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโดยกองทัพนาซี

Schindler’s List สร้างมาจากเรื่องจริงของ Oskar Schindler เจ้าของโรงงานและสมาชิกพรรคนาซี ผู้ได้รับการกล่าวขานว่าช่วยชีวิตชาวยิวกว่า 1,200 คน ในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

Oskar Schindler นั้นได้ช่วยเหลือชาวยิว ด้วยการใช้เส้นสายจากการเป็นสมาชิกพรรคนาซีของตัวเอง รับ ‘เฉลยศึกชาวยิว’ ที่ทหารนาซีจับกุม เข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างในโรงงานภาชนะเคลือบและโรงงานผลิตอาวุธสงครามที่เขาเป็นเจ้าของซึ่งตั้งอยู่ในประเทศโปแลนด์ ทำให้ชาวยิวเหล่านั้นไม่ถูกส่งตัวไปยังค่ายกักกันของนาซีในเยอรมัน

แม้ในช่วงแรก Oskar Schindler จะเลือกใช้แรงงานชาวยิว เพราะเป็นแรงงานที่ค่าแรงต่ำกว่าชาวโปแลนด์ แต่หลังจากที่เห็นถึงความโหดร้ายในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของกองทัพนาซี เขาก็ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยการใช้เงินมากมายในการติดสินบนกับเจ้าหน้าที่พรรคนาซี ไม่ให้จับตัวลูกจ้างของเขาไปเข้าค่ายกักกัน

แม้กระทั่งในช่วงปลาย สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นาซีต้องการอพยพนักโทษที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเยอรมัน ให้มาอยู่ในที่เดียวกันเพื่อทำการสังหารให้หมด Oskar Schindler ก็ยังคงยืนหยัดที่จะช่วยเหลือลูกจ้างของเขา ซึ่งนี่เองทำให้เขาต้องแลกเอาทรัพย์สินและความมั่งคั่งที่มีอยู่ทั้งหมดไปกับการติดสินบนและซื้อสินค้าหายากจากตลาดมืดมาให้กับเจ้าหน้าที่พรรคนาซีใช้

การทุ่มเงินเพื่อช่วยเหลือชาวยิวที่เหลือรอดอยู่ ทำให้หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง Oskar Schindler ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ติดตัวเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้รับเงินช่วยเหลือจาก ซินด์เลอร์ยูเดิน (Schindlerjuden; ชาวยิวของซินด์เลอร์) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วยความช่วยเหลือของเขา

Fun Fact : แม้ว่าหนัง Schindler’s List จะประสบความสำเร็จทางด้านรายได้อย่างสูง แต่ Steven Spielberg ผู้กำกับของเรื่อง ก็ยืนกรานที่จะไม่รับค่าตอบแทนใดๆ จากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะสตีเวน สปิลเบิร์ก มองว่านี่เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ฉะนั้นเงินที่ได้จากการเล่าเรื่องราวเช่นนี้ก็เปรียบเสมือน “เงินที่เปื้อนเลือด”

The Imitation Game (2014)

ww2 history movie

อีกภาพยนต์ที่สร้างมาจากเรื่องราวของบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง โดยเล่าเรื่องราวของ Alan Turing
.
Alan Turing นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษได้เข้าไปทำงานให้กับหน่วยงานรัฐบาลอังกฤษ เพื่อแก้ไขรหัสลับอินิกม่า (Enigma) อุปกรณ์เข้ารหัสที่ใช้ในการสื่อสารทางการทหารและอื่น ๆ ของกองทัพนาซี ซึ่งการถอดรหัสได้จะทำให้รัฐบาลอังกฤษรู้ทันความเคลื่อนไหวของนาซีและรับมือกับได้ทันท่วงที ซึ่งได้คาดการณ์กันว่าการไขรหัสลับอินิกม่าสำเร็จทำให้สงครามโลกนั้นจบเร็วขึ้นถึง 2 ปี

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง Alan Turing ยังได้สร้างผลงานชิ้นเอก นั้นคือการออกแบบ Turing machine อุปกรณ์เครื่องจักรที่สามารถโปรแกรมได้เครื่องแรกของโลก ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของ ‘เครื่องคอมพิวเตอร์’ ที่เราใช้กันในปัจจุบัน

แต่ที่น่าเศร้า คือในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ Alan Turing ไม่ได้ถูกจดจำในฐานะวีรบุรุษสงครามหรือนักคณิตศาสตร์อัจริยะ แต่เขาถูกจดจำว่าเป็นอาชญากร เนื่องจากเขามีความสัมพันธ์กับผู้ชายภายในบ้านพัก ซึ่งในเวลานั้นรสนิยมการรักเพศเดียวกัน ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฏหมายอาญาของอังกฤษอย่างร้ายแรง ทำให้ชื่อเสียงของเขาตกต่ำลงจนถึงขีดสุด และจบชีวิตของตัวเองลงในวัย 41 ปี (แต่ก็มีคนตั้งทฤษฎีว่าเขาอาจจะถูกลอบสังหาร เพราะมีข้อมูลของรัฐบาลอังกฤษมากเกินไปได้)

จนเมื่อปี 2013 นี่เอง ที่ Alan Turing ได้รับการอภัยโทษ และได้รับความชื่นชมในฐานะวีรบุรุษสงครามอย่างที่เขาสมควรจะได้รับมาตั้งแต่แรก

Dunkirk (2017)

ww2 movie

ในขณะที่ภาพยนตร์ สงคราม ที่เรื่องราวของทหารมักจะโฟกัสไปที่ความเสียสละ ความดุเดือด การยืนหยัดต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายของทหารในสมรภูมิรบ แต่ Dunkirk (2017) นั้นต่างออกไป เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้โฟกัสไปที่การอพยพทหารที่กำลังจะแพ้ ออกจากสมรภูมิรบให้ได้

Dunkirk สร้างมาจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ที่บริเวณชายหาดดันเคิร์กทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งกองทัพทั้งสองของฝ่ายสัมพันธมิตร อย่างทหารอังกฤษและทหารฝรั่งเศสเสียท่าให้กับกองทัพนาซี ถูกต้อนมาจนติดค้างอยู่ที่เมืองนี้จำนวนกว่า 400,000 นาย

เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เลวร้ายถึงขีดสุด เพราะทัพนาซีได้ปิดล้อมทหารกลุ่มนี้ไว้รอบด้าน ไม่มีทางที่จะสู้แล้วชนะได้ ทางรอดเดียวของพวกเขาจึงเป็นการอพยพทหารทั้งหมดไปยังเกาะอังกฤษให้ทันเวลาก่อนที่ทัพนาซีจะบุกมาถล่มถึงที่

ปฏิบัติการณ์ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็น ‘ปาฏิหาริย์’ เพราะพวกเขาสามารถอพยพพลทหารได้มากกว่า 338,226 นาย จากที่ตอนแรกคาดการณ์ว่าอาจจะอพยพได้เพียง 45,000 นายเท่านั้น

แม้ในเวลานั้น Winston Churchill นายกรัฐมนตรีของอังกฤษจะบอกว่ายุทธการดันเคิร์กคือ “หายนะทางการทหารครั้งมโหฬาร” และยังบอกด้วยว่า “สงครามไม่ได้ชนะด้วยการอพยพ” แต่นักประวัติศาสตร์หลายคนก็ได้บอกว่ายุทธการที่ดันเคิร์กเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง

เช่นเดียวกับที่ภาพยนตร์ Dunkirk ได้บอกไว้ว่า “การรอดชีวิตกลับไปได้ ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่”

ถ้าคุณชื่นชอบเรื่องของสงคราม ลองอ่านต่อ
https://thewmtd.com/wp-admin/post.php?post=9184&action=edit

#WW2 #WW2history #Movie #wmtd

นักคลั่งการอ่านและการเขียน ผู้สนใจทุกเรื่องรอบตัว และติดตามกระแสสังคมได้อย่างรวดเร็ว ชอบชงกาแฟ ชอบดูหนัง และวงเกาหลี

Post a Comment

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save